เจ้าหน้าที่ดับเพลิงออสเตรเลียได้รับอานิสงค์จากอุณหภูมิที่เย็นลง และลมที่ไม่พัดแรง โดยสามารถควบคุมไฟป่าได้มากขึ้น
ในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ซึ่งได้รับความเสียหายมากที่สุด เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าที่เมือง โบดัลลา กล่าวว่า ขณะนี้สามารถเปลี่ยนจากการทำหน้าที่ รับมือและป้องกันการขยายวงกว้าง มาเป็น การทำงานเชิงรุกเพื่อดับไฟได้มากขึ้น
สื่อ Sydney Morning Herald ของออสเตรเลียรายงานวันอาทิตย์ว่า ไฟที่เทือกเขา Gospers ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครซิดนีย์ อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว หลังจากที่มีฝนตกลงมา
ณ คืนวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น ไฟป่า 111 จุดยังคงเผาผลาญพื้นที่ในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ในจำนวนดังกล่าว 40 จุด เจ้าหน้าที่ยังมาสามารถควบคุมเพลิงได้ ตามข้อมูลของสำนักงาน NSW Rural Fire Service
ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว ไฟป่าในออสเตรเลียคร่าชีวิตเหยื่อไปแล้ว อย่างน้อย 27 คน และทำลายพื้นที่ไปแล้ว กว่า 62 ล้าน 5 แสนไร่ ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งคิดเป็นพื้นที่ใหญ่กว่าประเทศโปรตุเกสเหตุการณ์ไฟป่าในออสเตรเลียรอบล่าสุด ถือว่าเกิดเร็วกว่าปกติ หลังจากเกิดภัยแล้งติดต่อกัน 3 ปี ซึ่งทำให้พื้นทีป่าส่วนใหญ่ของประเทศเข้าสู่ภาวะเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้
ที่ผ่านมา ประชาชนหลายพันคนจำต้องละทิ้งบ้านเรือน เพื่อหนีผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ และ ผู้คนจำนวนมากในพื้นที่ห่างไกล ต้องดำเนินชีวิตโดยปราศจากไฟฟ้า บริการโทรคมนาคม หรือแม้แต่น้ำดื่ม โดยหน่วยกู้ภัยยังเดินหน้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ง นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สก็อตต์ มอร์ริสัน ประกาศตั้งงบ 2 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อจัดตั้งหน่วยงานระดับชาติฟื้นฟูภัยพิบัติไฟป่า และ กล่าวว่า วิกฤติไฟป่าครั้งล่าสุด สร้างผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ สภาประกันภัยออสเตรเลีย เพิ่งปรับการประเมิน มูลค่าการเรียกร้องค่าเสียหายจากการประกันภัยในครั้งนี้ ขึ้นเป็น 700 ล้านเหรียญออสเตรเลีย โดยคาดว่าตัวเลขจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก หากสามารถเข้าถึงพื้นที่อื่นๆ ที่ถูกกระทบได้