อังกฤษคว้าชัยเก็บขยะชิงแชมป์โลก

ผู้ร่วมการแข่งขันเก็บขยะ "Spogomi World Cup" ร่วมถ่ายภาพที่กรุงโตเกียว 22 พ.ย. 2023 (รอยเตอร์)

อังกฤษคว้าแชมป์โลกด้านการเก็บขยะ ในการแข่งขันที่กรุงโตเกียว ที่มีการขับเคี่ยวกันกับอีกหลายสิบประเทศทั่วโลก ในการแข่งขัน SpoGomi World Cup ที่มุ่งเป้าสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม

ทีมผู้เข้าแข่งขัน 21 ประเทศทั่วโลก อาทิ บราซิล ออสเตรเลีย สวีเดน อังกฤษ ญี่ปุ่น และไทย เข้ารุกพื้นที่ท้องถนนในย่ายชิบูย่าและโอโมเตะซานโดะ โดยทีมผู้เข้าแข่งขันแต่ละประเทศที่ส่งตัวแทนมาได้ 3 คน มีเวลา 90 นาทีในการค้นหาเศษขยะ และทำการแยกขยะตามประเภทที่เหมาะสม

ทีมชาติอังกฤษในชื่อ "The North Will Rise Again" เอาชนะประเทศญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าภาพไปได้ ด้วยคะแนน 9,046.1 คะแนน ในการเก็บขยะน้ำหนัก 57.27 กิโลกรัม

ซาราห์ พาร์รี กัปตันทีมเก็บขยะสัญชาติอังกฤษ กล่าวหลังรับถ้วยรางวัลเมื่อวันพุธว่า “ทีมอื่น ๆ อาจจะมีความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมมากกว่า และเล่นเป็นเกมกีฬาน้อยกว่า เราอาจจะตรงกันข้ามเลย แต่เราได้จัดการขยะออกไปเทียบเท่ากับปริมาณขยะที่เราต้องเข้าไปจัดการในมหาสมุทรและลดการก่อเศษขยะลง” และว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก

ทั้งนี้ เจ้าภาพอย่างญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องมาตรฐานด้านสุขอนามัยและความสะอาดที่สูงมาก และทำให้เป็นอุปสรรคสำหรับผู้เข้าแข่งขันในการค้นหาขยะมากพอสมควร

เบียทริซ เฮอร์นันเดซ สมาชิกทีมชาติสหรัฐฯ บอกกับรอยเตอร์ว่า “บางครั้งมันก็ยากมาก ๆ เพราะที่นี่แทนจะไม่มีขยะเลย ... แต่มันทำให้เราต้องมองลึกลงไปตามพุ่มไม้ต่าง ๆ หรือโฟกัสที่ก้นบุหรี่ตามพื้นแทน”

คำว่า SpoGomi มาจากการผนวกคำย่อของคำว่า sport ที่แปลว่ากีฬา กับคำว่า gomi ที่แปลว่าขยะในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งการแข่งขันนี้คิดค้นขึ้นเมื่อปี 2008 ในการกระตุ้นให้คนเก็บขยะตามที่สาธารณะ และเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น จนมีการแข่งขันลักษณะนี้ถึง 230 ครั้งในญี่ปุ่นเฉพาะในปีนี้

ทาง Nippon Foundation ผู้จัดงาน ระบุว่าการแข่งขันชิงแชมป์โลกมีขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาขยะพลาสติกในมหาสมุทร

มิตสึยูกิ อุนโนะ ผู้บริหาร Nippon Foundation กล่าวว่า “สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องปัญหาขยะในทะเลทราบถึงสถานการณ์นี้ก่อน” และว่า “เป้าหมายอย่างที่สองของกิจกรรมนี้ก็คือสร้างโอกาสให้ผู้คนที่ใส่ใจปัญหาและอยากเข้ามาลงมือทำ”

สำหรับการแข่งขันครั้งต่อไปจะมีขึ้นในปี 2025

  • ที่มา: รอยเตอร์