Your browser doesn’t support HTML5
เมื่อวันอาทิตย์หนังสือพิมพ์ Mail on Sunday ของอังกฤษ เปิดเผยอีเมลทางการทูตซึ่งเป็นความเห็นของนาย Kim Darroch อดีตทูตอังกฤษประจำสหรัฐอีกครั้ง
โดยคราวนี้สื่ออังกฤษระบุว่า เขาได้ให้ความเห็นในรายงานที่ส่งไปถึงกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษในกรุงลอนดอน ว่าการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อปีที่แล้ว ที่ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อควบคุมนิวเคลียร์ของอิหร่านนั้น เทียบได้กับการทำลายความน่าเชื่อถือ และสร้างความเสียหายทางการทูตของสหรัฐฯ
โดยความเห็นของอดีตนักการทูตอังกฤษประจำกรุงวอชิงตันผู้นี้ก็คือประธานาธิบดีทรัมป์ตัดสินใจในเรื่องนี้ด้วยเหตุผลส่วนตัว โดยมีเจตนามุ่งร้ายต่อชื่อเสียงและภาพพจน์ของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้ลงนามในข้อตกลงฉบับนี้
การที่หนังสือพิมพ์ Mail on Sunday ของอังกฤษ นำข้อมูลการประเมินทางการเมืองของอดีตทูตอังกฤษ ซึ่งโดยปกติแล้วถือว่าเป็นความลับออกมาเปิดเผยอีกครั้ง ทำให้มีการเชื่อมโยงเจตนาของผู้อยู่เบื้องหลังว่าน่าจะมาจากนักการเมืองหรือนักธุรกิจฝ่ายที่สนับสนุน Brexit ที่ต้องการให้มีการแต่งตั้งทูตอังกฤษประจำสหรัฐคนใหม่ผู้มีแนวคิดอุดมการณ์ในทางเดียวกัน
โดยปกติแล้ว ตำแหน่งทูตอังกฤษประจำสหรัฐนั้นมักจะเป็นของข้าราชการระดับสูงของอังกฤษผู้มีความรู้ความสามารถและเชี่ยวชาญในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ในครั้งนี้ กลุ่มที่สนับสนุน Brexit ได้พยายามผลักดันให้มีการแต่งตั้งนักการเมือง นักธุรกิจ หรือบุคคลภายนอกให้เข้ารับตำแหน่งนี้แทน
นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ในช่วงหลังนี้รัฐบาลสหรัฐแสดงท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับอังกฤษช่วงหลัง Brexit
และเจ้าหน้าที่สหรัฐบางคนชี้ด้วยว่า ความสำเร็จของข้อตกลงการค้าเสรีดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการสนับสนุนอย่างชัดเจนของรัฐบาลกรุงลอนดอนในเรื่องการเผชิญหน้ากับอิหร่าน รวมถึงเรื่องการปิดกั้นบริษัทเทคโนโลยีของจีนไม่ให้เข้าไปพัฒนาระบบ 5G ในอังกฤษด้วย
เรื่องที่น่าสังเกตก็คือ มีการเชื่อมโยงการเปิดเผยความเห็นของอดีตทูตอังกฤษประจำสหรัฐซึ่งทำโดย Isabel Oakeshott ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ Mail on Sunday ฉบับนี้ กับนาย Richard Tice ประธานพรรค Brexit ซึ่งมีนาย Nigel Farage เป็นผู้นำ โดยรายงานระบุว่าบุคคลทั้งสองมีความสัมพันธ์กันอย่างลับๆ ถึงแม้ทั้งคู่จะปฏิเสธข่าวเรื่องนี้ก็ตาม
นอกจากนั้น ขณะนี้ก็ยังมีการต่อสู้กันอยู่ภายในพรรครัฐบาลอังกฤษเองว่าใครควรจะเป็นทูตอังกฤษประจำสหรัฐคนใหม่ และใครควรเป็นผู้แต่งตั้งทูตคนใหม่นี้
โดยขณะที่ที่ปรึกษาของนาย Boris Johnson ผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟซึ่งมีโอกาสค่อนข้างมากที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่จะกล่าวว่า นาย Johnson ควรเป็นผู้แต่งตั้งทูตคนใหม่หลังจากที่เขาจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จแล้ว แต่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษก็ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี Teresa May คนปัจจุบัน ควรเป็นผู้แต่งตั้งทูต
และมีรายงานด้วยว่าอาจจะมีการแต่งตั้งอดีตเลขานุการส่วนตัวของสมเด็จพระนางเจ้าเอลิซาเบ็ธ เข้ารับตำแหน่งทูตอังกฤษประจำสหรัฐคนใหม่ด้วย
การเปิดเผยความเห็นของอดีตนักการทูตอังกฤษผู้ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในสหรัฐอย่างตรงไปตรงมานี้ ยังทำให้เกิดข้อถูกเถียงอีกด้านหนึ่งด้วย
เพราะขณะที่กองบัญชาการตำรวจของอังกฤษจะเตือนสื่อมวลชนไม่ให้นำข้อมูลลับทางการทูตออกมาเปิดเผยเพราะจะถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายรักษาความลับของทางราชการนั้น บรรดานักหนังสือพิมพ์รวมทั้งนักการเมืองอังกฤษบางคนได้โต้ว่า การสั่งห้ามนี้นับเป็นภัยคุกคามต่อเสรีภาพของสื่อมวลชน