อังกฤษรุกคืบแผนฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มบูสเตอร์ให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่

Vacunas COVID-19

รัฐบาลอังกฤษประกาศเพิ่มกลุ่มประชาชนที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนโควิด-19 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรือ บูสเตอร์ ให้กับผู้ที่มีอายุ 40-49 ปี เพื่อหวังควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง

ก่อนการประกาศเพิ่มกลุ่มประชากรที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนบูสเตอร์นั้น อังกฤษอนุมัติยาดังกล่าวให้เฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป และผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพส่วนตัว รวมทั้งผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในส่วนงานที่มีความจำเป็นต่างๆ เท่านั้น

แต่ในการแถลงข่าวที่กรุงลอนดอนในวันจันทร์ เว่ย เชน ลิน ประธานคณะกรรมาธิการร่วมด้านการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันของอังกฤษ ประกาศว่า รัฐบาลอนุมัติให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปและได้รับวัคซีนครบโดสมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนแล้ว มีสิทธิ์รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ ซึ่งจะเป็นของ ไฟเซอร์-ไบโอเอนเท็ค (Pfizer-BioNTech) หรือของ โมเดอร์นา (Moderna) ก็ได้

คณะกรรมาธิการร่วมฯ ยังแนะนำให้มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ซึ่งเป็นของ ไฟเซอร์-ไบโอเอนเท็ค สำหรับเยาวชนผู้มีอายุระหว่าง 16 และ 18 ปี ด้วย หลังจากแนะนำในประกาศเมื่อเดือนสิงหาคม ให้ประชากรกลุ่มดังกล่าวรับวัคซีนเพียงเข็มเดียวไปก่อน

ขณะเดียวกัน ดร.จูน เรน จาก Medicines and Healthcare products Regulatory Agency (MHRA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับกิจการยาของอังกฤษ ระบุว่า หลังการเฝ้าติดตามผลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปีมาได้สักพัก ทางหน่วยงานไม่พบว่ามีเหตุน่ากังวลจากการฉีดยาให้กับประชากรกลุ่มดังกล่าวเลย

นอกจากนั้น โจนาธาน แวน-แทม รองแพทย์ใหญ่ของอังกฤษ (Deputy Chief Medical Officer) กล่าวระหว่างการเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ว่า ข้อมูลที่รวบรวมได้จนถึงปัจจุบันแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์แล้ว มีภูมิคุ้มกันต่อต้านอาการป่วยเพิ่มขึ้นถึงระดับกว่า 90% ซึ่งทำให้เชื่อว่าภูมิป้องกันที่จะช่วยไม่ให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและป้องกันการเสียชีวิตน่าจะเพิ่มสูงยิ่งกว่านั้น

แวน-แทม ยังระบุด้วยว่า โครงการแจกจ่ายวัคซีนเข็มบูสเตอร์นั้นประสบความสำเร็จอย่างดีและมีผู้เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก จนทำให้เชื่อได้ว่า “จะช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับอัตราการป่วยจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือจนเสียชีวิต เนื่องจากการติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและตลอดช่วงฤดูหนาว ให้กับผู้คนได้นับล้านเลยทีเดียว”