นักวิจัยประสบความสำเร็จกับเทคโนโลยีควบคุมเครื่องมือด้วยคลื่นสมอง

(FILE)An exhibition staff moves a styrofoam ball with wind from a fan controlled by his brain waves, as he demonstrates using an exhibit called "Mindflex" during a photo opportunity at the Smart City 2013 International Design Exhibition in Beijing October

Your browser doesn’t support HTML5

Brain Controlled

ในยุคที่การก้าวกระโดดทางวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นได้รวดเร็วนี้ นักวิจัยทีมหนึ่งประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีพร้อมอุปกรณ์ที่สามารถอ่านคลื่นสมองเพื่อสั่งเครื่องมือต่างๆ ให้ทำงานได้

นักวิจัยจากบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากสถาบัน Harvard Innovation Lab คือทีมที่สามารถคิดค้นและประดิษฐ์อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อคลื่นสมองของมนุษย์เข้ากับเครื่องมืออิเลคทรอนิคส์ได้ก่อนใคร

ตัวอย่างสิ่งประดิษฐ์ที่ทีมนำเสนอออกมามี อาทิ ของเล่นรถแข่งที่ผู้เล่นไม่ต้องใช้มือจับคันบังคับหรืออุปกรณ์อื่นใด นอกจากสวมที่รัดศีรษะ ซึ่งผลิตโดยบริษัท BrainCo และมีตัวเซ็นเซอร์มีส่วนประกอบของวัสดุไฮโดรเจล หรือโพลิเมอร์ชนิดหนึ่ง ทำให้สามารถอ่านคลื่นไฟฟ้าสมองของผู้สวมใส่ได้

แม็กซ์ นิวลอน ประธานบริษัท BrainCo กล่าวว่า อุปกรณ์นี้ทำหน้าที่ประเมินความมีสมาธิของผู้เล่น เพื่อช่วยให้คนๆ นั้นสามารถเรียนรู้การตั้งสมาธิ หรือ ผ่อนคลาย

นิวลอน บอกว่า เมื่อผู้ใช้งานอุปกรณ์นี้มีสมาธิ คลื่นสมองก็จะมีรูปแบบแบบหนึ่ง และยิ่งมีความสงบนิ่งและผ่อนคลาย คลื่นสมองก็จะเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นอีกแบบ ทีมงานจีงคำนวณความแตกต่างของรูปแบบคลื่นสมองดังกล่าว แล้วแปลงเป็นค่าตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 100 ซึ่งหมายถึง ความผ่อนคลายเต็มที่ ไปจนถึง การมีสมาธิขั้นสูงสุด ซึ่งเป็นค่าที่ช่วยส่งพลังขับเคลื่อนรถแข่งให้เข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ได้สำเร้จ

นอกจากนี้ นักวิจัยยังออกแบบอุปกรณ์จับและอ่านค่าคลื่นสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อ ซึ่งอยู่ในรูปแบบของอุปกรณ์แขน/ขาเทียม ที่มีส่วนประกอบเป็นหน่วยประมวลผลและตัวเซ็นเซอร์

รายงานข่าวบอกว่า การทดสอบอุปกรณ์แขนเทียมกับผู้ร่วมทดลองซึ่งเป็นชายชาวจีนที่ประสบอุบัติเหตุแขนขาด ทำให้เจ้าตัวสามารถจับพู่กันเขียนตัวหนังสือจีนได้เสมือนคนปกติ เพียงใช้สมองบังคับนิ้วเทียมให้ขยับเท่านั้น

นิวลอน แห่งบริษัท BrainCo บอกว่า เทคโนโลยีระบบเชื่อมต่อสำหรับคอมพิวเตอร์ หรือ interface ที่พัฒนาออกมาสำเร็จนี้ แสดงให้เห็นถึงทิศทางการมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างมนุษย์และจักรกลที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต

นิวลอน บอกว่า เมื่อไม่กี่ทศวรรษก่อน มนุษย์เราเริ่มควบคุมเทคโนโลยีด้วยการใช้มือ เช่น การใช้นิ้วเปิด-ปิดสวิทช์ไฟ ต่อมา ก็เป็นเทคโนโลยีสัมผัสหน้าจอ อย่างกรณีโทรศัพท์ไอโฟน และปัจจุบัน คนเราเริ่มคุ้นเคยกับการใช้เสียงสั่งงานแล้ว ดังนั้น ในอนาคต คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่จะเห็นการใช้สมองสั่งงานเครื่องจักร

ได้ยินกันเช่นนี้แล้ว อีกไม่นาน เราคงจะเห็นการใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่ๆ ที่ให้ผู้บริโภคใช้เพียงความคิดเพื่อทำให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้นไปอีก