อียูเตือน ‘สถานการณ์มนุษยธรรมในกาซ่าแย่ลงกว่านี้ได้อีก’

  • VOA

ภาพมุมกว้างที่แสดงให้เห็นแคมป์ตั้งเต็นท์สำหรับชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่น ในเมืองราฟาห์

สหภาพยุโรป (อียู) เตือนว่า วิธีการเดินหน้าทำการรบของอิสราเอลในกาซ่านั้น “กำลังหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังให้กับคนรุ่นต่อไปอยู่”

ในวันจันทร์ โจเซพ บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู พูดคุยกับ อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล และ ริยาด อัล-มาลิกิ นักการทูตระดับสูงขององค์การบริหารปาเลสไตน์ ก่อนจะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อียูนั้นรับทราบและเข้าใจดีว่ากลุ่มฮามาสคือใครและทำอะไรไว้บ้าง ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่อียูไม่ยอมรับและประณามมาตลอด และว่า “แต่สันติภาพและเสถียรภาพนั้นไม่สามารถถูกสร้างขึ้นได้ด้วยหนทางทางทหาร และไม่ได้ด้วยวิถีทางที่ใช้การทหารเช่นนี้”

บอร์เรลล์ ยังกล่าวด้วยว่า “สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมนั้นอาจเลวร้ายลงได้กว่านี้” และว่า “ไม่มีคำพูดใด ๆ ที่จะอธิบายว่า สถานการณ์นั้นเป็นอย่างไร ในช่วงที่ผู้คนนับแสนคนเหลือแต่ตัว ไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีอาหาร ไม่มียา และถูกทิ้งระเบิดใส่ตลอด ทุก ๆ วัน มีตัวเลขพลเรือนถูกสังหารเป็นจำนวนมาก”

ทั้งนี้ อิสราเอลกล่าวโทษฮามาสว่าเป็นฝ่ายที่ทำให้พลเรือนตกอยู่ในอันตราย และกล่าวว่า กลุ่มติดอาวุธนั้นจงใจดำเนินปฏิบัติการในพื้นที่ที่อยู่อาศัยและภายในเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินของตน

รายงานข่าวระบุว่า การต่อสู้ในกาซ่าในวันจันทร์นั้นยังดำเนินอยู่ต่อไป โดยอิสราเอลทำการโจมตีทางอากาศเข้าใส่เป้าหมายที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มฮามาสในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ตลอดเวลา

  • ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์