ตู้หนังสือฟรีอัตโนมัติมุ่งการรู้หนังสือในเด็กอเมริกันที่ด้อยโอกาส

Book Vending Machine

หนังสือเด็กน่าอ่านหลายสิบเล่มวางเรียงรายอยู่ในตู้จ่ายหนังสืออัตโนมัติตู้นี้ ที่ทำงานเหมือนกับตู้ขายของอัตโนมัติทั่วไป เด็กๆ สามารถกดปุ่มเลือกหนังสือเล่มที่อยากได้โดยไม่ต้องเสียสตางค์ซื้อ

หนังสือเด็กเหล่านี้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์ ช้าง ทหารเสือ หุ่นยนต์และเรื่องราวอื่นๆอีกมากมาย

คุณ Icema Gibbs เข้าร่วมในงานส่งเสริมการอ่านด้วยการอ่านหนังสือให้เด็กๆ ฟัง เธอบอกว่าเด็กควรอ่านหนังสือวันละ 20 นาทีเป็นอย่างน้อย เด็กๆ นั่งล้อมวงเพื่อฟังเรื่องราวในหนังสือที่คุณ Gibbs อ่านให้ฟังและยังมีส่วนร่วมตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่ได้ฟังไป

หลังจากเสร็จสิ้นช่วงการอ่านแล้ว เด็กๆ จะไปเลือกหนังสือที่ชอบจากตู้จ่ายหนังสืออัตโนมัติโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ นอกจากเด็กๆ จะเลือกอ่านหนังสือจากตู้ได้ฟรีแล้ว เด็กๆ ยังเก็บหนังสือติดตัวกลับบ้านไปได้ด้วย

โครงการตู้จ่ายหนังสืออัตโนมัติสนับสนุนโดยบริษัท JetBlue Airlines คุณ Gibbs เป็นประธานฝ่ายความรับผิดชอบทางสังคมของบริษัท เธอกล่าวว่าทางบริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านที่มีต่อพนักงานบริษัททุกกลุ่มตั้งแต่ นักบิน เจ้าหน้าที่บริการบนเครื่องบิน ตลอดจนพนักงานทุกคนของบริษัท และต้องการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้แก่เยาวชนตั้งแต่ยังเล็กๆ เพราะทางบริษัทเห็นว่านี่จะช่วยให้สร้างพนักงานที่มีคุณภาพแก่สายการบินในอนาคต

คุณ Tobeka Green แห่งสถาบัน National Black Child Development Institute กล่าวว่าตู้จ่ายหนังสือฟรีนี้มีบทบาทสำคัญมากในย่านนี้เพราะผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่มีเงินพอที่จะไปซื้อหนังสือให้ลูกๆ อ่าน เธอเห็นว่าตู้แจกหนังสือฟรีนี้กลายเป็นแหล่งทรัพยากรทางปัญญาที่สำคัญในชุมชนแห่งนี้และช่วยกระตุ้นให้ครอบครัวยากจนให้ความสำคัญกับการอ่านและส่งเสริมให้เด็กๆ อ่านหนังสือเป็นประจำที่สำคัญ เด็กๆ ตื่นเต้นมากกับการได้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มโปรด

โครงการนี้ยังเป็นโครงการนำร่อง แต่ผู้จัดทำโครงการหวังว่าจะสามารถติดตั้งตู้แจกหนังสือฟรีเพิ่มเติมในชุมชนด้อยโอกาสอื่นๆ อีกหลายแห่งในกรุงวอชิงตันเพื่อช่วยส่งเสริมการรู้หนังสือและปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน

(ทักษิณา ข่ายแก้ว เรียบเรียงรายงานของผู้สื่อข่าว Faiza Elmasry)