มหาเศรษฐี 'บลูมเบิร์ก' อดีตนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ประกาศลงเลือกตั้ง ปธน

Former New York City Mayor Michael Bloomberg speaks to the U.S. Conference of Mayors meeting in Washington, Jan. 25, 2019.

มหาเศรษฐีอเมริกัน ไมเคิล บลูมเบิร์ก อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ประกาศลงแข่งขันเลือกตั้งเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปลายปีหน้า

สื่อ NBC รายงานโดยอ้างข้อมูลของ Advertising Analytics ว่า ไมเคิล บลูกเบิร์กเตรียมจ่ายค่าโฆษณาโทรทัศน์กว่า 30 ล้านดอลลาร์ ที่จะใช้เพียงในหนึ่งสัปดาห์ เพื่อประชาสัมพันธ์ขั้นต้น เรื่องการลงเลือกตั้งของตน ซึ่งถือเป็นงบโฆษณาสูงสุดสำหรับการประชาสัมพันธ์ทางการเมือง

โฆษณาของนายบลูมเบิร์ก วัย 77 ปี เน้นยำ้ถึง ภารกิจ "สร้างประเทศให้เเข็งเเกร่งอีกครั้ง และฟื้นฟูความฝันที่ให้ความหมายต่อความเป็นคนอเมริกัน" และกล่าวถึงการขึ้นภาษีคนรวย การให้คนชั้นกลางมีส่วนได้ส่วนเสียที่ยุติธรรม และ การช่วยให้คนที่ไม่มีประกันสุขภาพ มีโอกาสได้รับการคุ้มครอง ส่วนคนที่มีของตนอยู่แล้วสามารถใช้บริการเดิมได้

ผู้ที่ทำงานให้กับเขากล่าวว่า นายบลูมเบิร์กซึ่งเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของสำนักข่าวและบริษัทข้อมูลการเงิน Bloomberg มีความกังวลอย่างยิ่งต่อบรรดาผู้สมัครของพรรคเดโมแครตในขณะนี้ ซึ่งดูแล้วไม่มีใครที่พอจะสามารถเอาชนะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนปีหน้าได้

ไมเคิล บลูมเบิร์ก เคยเป็นนักการเมืองสังกัดพรรครีพับลิกันที่เปลี่ยนใจไปสนับสนุนนางฮิลลารี คลินตัน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี ค.ศ. 2016 เขาเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กระหว่างปี ค.ศ. 2002 - 2013 และมีความสนิทสนมกับ โดนัลด์ ทรัมป์

ในการเเข่งขันกับนักการเมืองเดโมเเครตรายอื่นเพื่อให้เป็นตัวแทนพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้า เขาถูกคาดหมายว่าจะวางตัวเป็นผู้สมัครแนวทางสายกลางเช่นเดียวกับ โจ ไบเด้น ในขณะที่ตัวเก็งอีกสักคนคือ เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส และ เอลิซาเบ็ธ วอร์เรน จะมีแนวคิดเอียงไปทางเสรีนิยมมากกว่า

นิตยสาร Forbes รายงานเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ว่า ไมเคิล บลูมเบิร์ก มีความมั่งคั่งระดับ 5 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์ มากกว่า โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 73 ปี ที่รวยระดับ 3 พัน 1 ร้อยล้านดอลลาร์ ถึง 17 เท่า

ในแถลงการณ์ ไมเคิล บลูมเบิร์ก กล่าวว่า "ผมลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ และสร้างอเมริกาให้กลับมาเเข็งแกร่งอีกครั้ง เราไม่สามารถยอมรับการอยู่ต่ออีก 4 ปี ของการกระทำที่มุทะลุและไร้ความถูกต้อง.... หาก (ทรัมป์) ชนะเลือกตั้งอีกสมัยหนึ่ง เราอาจไม่สามารถฟื้นกลับมาจากความเสียหายที่เกิดขึ้นได้"