‘รมต.บลิงเคน’ กระตุ้นรัสเซียหยุดการกระทำก้าวร้าวต่อยูเครน

This handout photograph taken and released by the Ukrainian Presidential Press Service May 6, 2021, shows Ukrainian President Volodymyr Zelensky (C/L) and U.S. Secretary of State Antony Blinken (C/R) during their talks in Kyiv.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า แม้รัสเซียได้ถอนทหารบางส่วนออกจากพรมแดนที่ติดกับยูเครนแล้ว แต่ยังคงมีทหารและยุทโธปกรณ์จำนวนมากที่ประจำการอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งสหรัฐฯ ต้องการใหรัสเซีย “หยุดยั้งการกระทำที่อันตรายและก้าวร้าวนี้”

รัฐมนตรีบลิงเคน แถลงร่วมกับประธานาธิบดียูเครน โวโลดีเมียร์ เซเลนสเกีย ที่กรุงเคียฟ ระบุว่า รัสเซียยังมีศักยภาพที่จะสามารถกระทำการอย่างก้าวร้าวต่อยูเครนได้ในทันทีหากต้องการ และตนขอยกย่องในความอดกลั้นของยูเครนที่ไม่ตอบโต้ต่อท่าทีที่ยั่วยุนี้

เมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และยุโรป ต่างรายงานว่า ทหารรัสเซียราว 150,000 คน ได้เข้าประจำการบริเวณพรมแดนด้านตะวันตกติดกับยูเครนและในแคว้นไครเมีย ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียควบรวมแคว้นไครเมียเมื่อปี ค.ศ.2014

ทางรัสเซียยืนยันว่า ทหารเหล่านั้นเข้าร่วมในการซ้อมรบและได้เริ่มเดินทางกลับออกจากพื้นที่นั้นแล้วตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน แต่ประธานาธิบดีเซเลนสเกีย ระบุว่า ยังคงมีภัยคุกคามอยู่ตามพรมแดนด้านตะวันออกของยูเครน และยูเครนไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดหมายขึ้น

ท่าทีคุกคามของรัสเซียที่มีต่อยูเครนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นประเด็นหลักในการหารือระดับรัฐมนตรีของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก กลุ่มจี-7 (G-7) เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งรัฐมนตรีบลิงเคนยืนยันว่า สหรัฐฯ จะพิจารณาเพิ่มความช่วยเหลือด้านความมั่นคงให้แก่ยูเครน และจะพยายามสนับสนุนให้เกิดแนวทางทางการทูตเพื่อจัดการข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลยูเครนกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครนซึ่งได้รับการหนุนหลังจากรัสเซียด้วย