การประชุมใหญ่ของพรรคเดโมเเครตปิดฉากลงเมื่อคืนวันพฤหัสบดีด้วยการกล่าวสุนทรพจน์อย่างเป็นทางการ ของโจ ไบเดน เพื่อรับตำแหน่งตัวแทนพรรคชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ในคำแถลงเมื่อคืนนี้ตามเวลาสหรัฐฯ อดีตรองประธานาธิบดี ผู้ที่อยู่ในเวทีการเมืองมาเกือบ 50 ปี กล่าวว่า ถ้าประชาชนอเมริกัน มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันก็จะสามารถเอาชนะ “ฤดูกาลที่มืดมิด” ขณะนี้ไปได้
เขากล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ ชาวอเมริกันจะต้องทำให้ โดนัลด์ ทรัมป์ พ้นจากตำแหน่งไป ด้วยการแสดงพลังในการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน ขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาคนตกงานและวิกฤตโคโรนาไวรัส
ไบเดน กล่าวแถลงการณ์รับหน้าที่เป็นตัวแทนพรรค ที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาเเวร์ ในคืนวันที่สี่ ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของการประชุมใหญ่ของเดโมเเครต
ก่อนหน้าในสัปดาห์นี้ นักการเมืองระดับแม่เหล็ก เช่น อดีต ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สามคน คือ จิมมี คาร์เตอร์ บิลล์ คลินตัน และบารัค โอบามา มีถ้อยเเถลงสนับสนุนไบเดน
นอกจากนี้ พรรคเดโมเเครตยังได้แนวร่วม อย่าง อดีตผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ จอห์น เคสิค ที่เคยลงสมัครเป็นตัวแทนรีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ 4 ปีก่อน และ พลเอก โคลิน พาเวลล์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ สมัยจอร์จ ดับเบิลยู บุช เป็นประธานาธิบดี โดยทั้งคู่ส่งคลิปวิดีโอสนับสนุน โจ ไบเดน
ส.ว. อเมริกันเชื้อสายไทย แทมมี ดักเวิร์ธ กล่าวแสดงความเชื่อมั่นในตัวโจ ไบเดน ในวันพฤหัสบดี โดยเธอยังได้ตำหนิประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าไม่สมควรทำหน้าที่ผู้นำประเทศ
ปีนี้ เวทีการประชุมใหญ่ของเดโมเเครตที่จัดเเบบ ‘เสมือนจริง’ ผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก ให้พื้นที่กับสตรีจำนวนมากทั้งที่เป็นนักการเมือง เช่น ประธานสภาผู้แทนราษฎร แนนซี เพโลซี และที่ไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นผู้หญิงที่ห่วงใยสถานการณ์บ้านเมือง และได้รับผลกระทบการปัญหาต่างๆในปัจจุบัน
แน่นอนว่า การให้ความสำคัญของสตรีในปีน้ีถูกสะท้อนโดย การที่พรรคเดโมเเครตเลือกผู้หญิงเป็นตัวแทนในการลงชิงตำเเหน่งรองประธานาธิบดี
เมื่อคืนวันพุธ วุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย คามาลา แฮร์ริส ตอบรับข้อเสนอลงสมัครร่วมกับ โจ ไบเดน ในนามพรรคเดโมแครต ลงชิงชัยการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย. นี้อย่างเป็นทางการ ส.ว.แฮรร์ริส กล่าวสุนทรพจน์กระตุ้นให้ประชาชนลุกขึ้นสู้เพื่อสร้างอเมริกา “แบบที่เรารู้จัก”
ส.ว.หญิงวัย 55 ปีผู้นี้ สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้ลงสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่เป็นสตรีผิวสีและคนแรกที่มีเชื้อสายเอเชียใต้ โดยมารดาของเธอเป็นชาวอินเดีย และบิดาเป็นชาวจาไมก้า
Your browser doesn’t support HTML5
ทั้งนี้พรรครีพับลิกัน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะจัดงานประชุมใหญ่ของพรรคเช่นกัน เริ่มต้นวันจันทร์ในสัปดาห์หน้า
โดนัลด์ ทรัมป์ได้เดินทางไปเมืองโอล์ด ฟอร์จ รัฐเพนซิลเวเนีย ใกล้เมืองสแครนตัน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไบเดน เติบโตในวัยเยาว์
ผู้นำสหรัฐฯกล่าวที่เมืองโอล์ด ฟอร์จ ในวันพฤหัสบดี ต่อหน้าผู้สนับสนุนที่มาร่วมฟังคำปราศรัยว่า “หากท่านต้องการเห็นภาพว่าชีวิตความเป็นอยู่ภายใต้การนำประเทศของโจ ไบเดนเป็นเช่นไร ให้นึกภาพซากเถ้าถ่านที่ร้อนระอุ ที่เมืองมินิอาโพลิส ความรุนเเรงและความไม่มีขื่อไม่มีแปในเมืองพอร์ตแลนด์ และ ทางเดินที่เปื้อนคราบเลือดในนครชิคาโก”
ในสุนทรพจน์เมื่อคืนนี้ของโจ ไบเดน ผู้ซึ่งเคยเป็นวุฒิสมาชิก 36 ปี และรองประธานาธิบดี อีก 8 ปี เขาไม่ได้กล่าวชื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ แม้แต่เพียงครั้งเดียว แต่ตำหนิการบริหารประเทศในช่วง 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา
เขากล่าวหาทรัมป์ ว่าสนิทสนมกับผู้นำเผด็จการในต่างประเทศ ขณะที่ลดความสำคัญต่อมิตรภาพ กับประเทศที่เป็นเพื่อนกับสหรัฐฯมายาวนาน นอกจากนั้น ไบเดนกล่าว่าผู้นำสหรัฐฯคนปัจจุบัน สร้างความสั่นคลอนให้กับบำเน็จบำนาญและระบบการดูเเลสุขภาพผู้สูงอายุ ทั้งยังล้มเหลวในการจัดการกับปัญหาความไม่เท่าเทียมกันของคนต่างชาติพันธุ์ในสังคม
หากว่าไบเดนชนะการเลือกตั้ง เขาจะขึ้นรับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้าด้วยอายุ 78 ปี และจะกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯที่อายุมากที่สุด มากกว่าทรัมป์ ที่อายุ 74
ก่อนหน้านี้ ไบเดนพยายามชิงตำแหน่งตัวแทนพรรค เพื่อลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีมาเเล้วสองครั้งในปี ค.ศ. 1988 และ 2008 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ที่การประชุมใหญ่ของเดโมเเครต ผู้กล่าวสนับสนุนโจ ไบเดนหลายคน เอ่ยถึงบุคคลิกที่เขาเป็นคนเข้าใจความรู้สึกผู้อื่น ผ่านประสบการณ์ชีวิตของตนเอง ที่เคยสูญเสียภริยาคนก่อน และลูกสาวในอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อ 48 ปีก่อน และสูญเสียลูกชายคนโต นายโบ ไบเดน เมื่อ 5 ปีที่แล้ว จากโรคมะเร็งสมอง