ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐมิชิแกนที่จัดขึ้นเมื่อวันอังคารตามความคาดหมาย พร้อมสัญญาณที่น่าสนใจเกี่ยวกับผลเลือกตั้งที่ออกมาครั้งนี้ ที่เป็นเสียงสะท้อนจากชาวอเมริกันต่อประเด็นทั้งในและต่างประเทศที่อาจกำหนดทิศทางการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนนี้
เป็นที่คาดหมายในวงกว้างว่าทั้งไบเดนและทรัมป์จะกุมชัยในการเลือกตั้งขั้นต้นรัฐมิชิแกน แต่สัดส่วนของชัยชนะที่ได้มาในรัฐนี้ได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดแรงสนับสนุนของทั้งสองผู้ท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในรัฐสำคัญ ก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปลายปีนี้ ที่คาดหมายว่าจะเป็นนัดล้างตาระหว่างทรัมป์และไบเดน
ทั้งนี้ ทรัมป์คว้าชัยชนะในรัฐสมรภูมิแห่งนี้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 และก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนั้น แต่ไบเดนเอาชนะทรัมป์ในรัฐนี้ได้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 และทำให้ไบเดนคว้าชัยได้เป็นผู้นำสหรัฐฯ ในศึกเลือกตั้งครั้งก่อน
Your browser doesn’t support HTML5
ผลการนับคะแนนล่าสุดในวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ พบว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต 81% เลือกไบเดน ขณะที่ 13% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต เลือกกาบัตรในช่อง “ไม่เลือกผู้สมัครคนใด” แทนที่จะลงคะแนนให้ไบเดน
โดยปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในรัฐมิชิแกน ที่มีสัดส่วนชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับอาศัยอยู่มากที่สุดในสหรัฐฯ และการคัดค้านการสนับสนุนอิสราเอลของไบเดนในสงครามกาซ่า ได้ทำให้ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต ต่างเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงกาบัตร “ไม่เลือกผู้สมัครคนใด” แทนที่จะลงคะแนนให้ไบเดนในรัฐมิชิแกน ซึ่งคาดกันว่าจะมีผู้กาบัตรในลักษณะนี้ราว 10,000 เสียง แต่ในการนับคะแนนเมื่อวันพุธพบว่าผู้ที่กาบัตร “ไม่เลือกผู้สมัครคนใด” ทะยานทะลุ 100,000 รายไปแล้ว
อีกด้านหนึ่ง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่สนับสนุนพรรครีพับลิกัน 68% เลือกทรัมป์ ขณะที่ 27% เลือกนิกกี เฮลีย์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันที่เหลืออยู่หนึ่งเดียวของทรัมป์ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้
ทางเฮลีย์ ย้ำว่าจะยังอยู่ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ต่อไป แม้ว่าจะไม่ได้รับชัยชนะในรัฐใดเลยจนถึงเวลานี้ โดยเธอแย้งว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวอเมริกัน ไม่ต้องการเห็นการรีแมตช์ไบเดน-ทรัมป์ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ และหากมันเกิดขึ้นจริง ทรัมป์จะพ่ายแพ้กับไบเดนเป็นครั้งที่ 2
เฮลีย์ ระบุว่าเธอจะยังอยู่ในการเลือกตั้งอย่างน้อยในศึกซูเปอร์ทิวส์เดย์ ในวันที่ 5 มีนาคม ที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นพร้อมกันใน 15 รัฐทั่วอเมริกา
- มีเนื้อหาบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์