ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เสนอให้มีการจัดประชุมสูงสุดกับ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์แถบชายแดนประเทศยูเครนที่มีการสั่งสมกำลังของกองทัพรัสเซียอยู่
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า การพูดคุยระหว่างผู้นำทำเนียบขาวและรัฐบาลกรุงเครมลินครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างสองผู้นำของสองประเทศมหาอำนาจ หลังปธน.ไบเดน ขึ้นรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่าน
รายงานข่าวระบุว่า การพูดคุยในครั้งนี้เกิดขึ้น หลังรัฐบาลชาติตะวันตกเรียกร้องให้รัสเซียยุติการสั่งสมกำลังทหารดังกล่าว ขณะที่ รัฐบาลกรุงเครมลิน โต้ว่า “คู่อริ” ทั้งหลายของรัสเซีย ควรดึงเรือรบสหรัฐฯ ให้ออกห่างจากภูมิภาคไครเมียจะดีกว่า
รัสเซียเข้ายึดพื้นที่แคว้นไครเมียจากยูเครนตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2014 และการต่อสู้ระหว่างทั้งสองรุนแรงขึ้นมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
แถลงการณ์จากทำเนียบข่าวระบุว่า ปธน.ไบเดน มีความกังวลว่า สถานการณ์อันตึงเครียดในภูมิภาคนี้อาจจะยกระดับรุนแรงขึ้น จึงตัดสินใจยกหูโทรศัพท์หา ปธน.ปูติน เพื่อเสนอให้ทั้งสองมาร่วมพูดคุยกัน ในพื้นที่ประเทศที่ 3 พร้อมย้ำจุดยืนของสหรัฐฯ ที่จะมุ่งมั่นสนับสนุนอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนด้วย
ตามเนื้อความของแถลงการณ์ฉบับนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังยืนยันเป้าหมายที่จะสร้าง “ความสัมพันธ์ที่มั่นคงและพอจะคาดคะเนทิศทางได้” กับรัสเซีย และกล่าวว่า การประชุมที่จะเกิดขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ จะมีการหยิบยก “ประเด็นอันหลากหลายครบถ้วน” ที่ทั้งสองประเทศมหาอำนาจเผชิญหน้าอยู่ ขึ้นมาพูดคุยด้วย
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า เซอร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย บอกกับสื่อภายในประเทศในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ว่า “สหรัฐฯ นั้นคือ อริที่ทำทุกวิถีทางที่ทำได้ เพื่อบ่อนทำลายจุดยืนของรัสเซียในเวทีโลก”