ไบเดน เศรษฐกิจสหรัฐฯ และสงครามยูเครน-รัสเซีย

Biden Gas Prices

ภาวะสงครามในยูเครนที่เข้าสู่เดือนที่ 5 แล้วนั้นได้ดันราคาน้ำมันสูงขึ้น ซ้ำยังก่อให้เกิดวิกฤตการขาดแคลนอาหารทั่วโลก ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน จึงประกาศว่า จะทำการหารือเพื่อลดปัญหาข้างต้นกับผู้นำจากกลุ่มประเทศ​จี-7 และนาโต้ในสัปดาห์นี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ระบุว่า สงครามในยูเครนนั้น คือ ปัจจัยที่ทำให้เกิดการชะงักงันในตลาดพลังงานทั่วโลก และให้นิยามกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนเป็นปัญหาสำหรับผู้ขับขี่รถชาวอเมริกัน ว่า เป็น “การปรับราคาขึ้นเพราะปูติน” (Putin Pump Price) พร้อมสัญญาว่า จะดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดทอนผลกระทบดังกล่าว

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า ตนเข้าใจดี ว่าไม่มีใครชอบที่ต้องใช้เงินจำนวนมากขึ้นเพื่อซื้อของใช้ที่จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวัน ซึ่งรวมทั้ง ค่าน้ำมันและอาหาร แต่ย้ำว่า การปรับขึ้นของราคาของสินค้าเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

Biden Gas Prices

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า “สหรัฐฯ ได้ระงับการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย และพันธมิตรในยุโรปก็ได้เข้าร่วมด้วย โดยทุกคนรู้ว่าการทำเช่นนี้จะทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น และจริง ๆ แล้วเราสามารถทำเป็นมองไม่เห็นการกระทำเยี่ยงฆาตกรของปูติน ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันไม่ปรับพุ่งสูงอย่างที่เป็นอยู่ แต่เรารู้ว่า การทำเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ผิด”

ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนนี้ ราคาน้ำมันทั่วโลกได้ปรับเพิ่มขึ้น เหตุเพราะมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันและสินค้ารัสเซีย บวกกับภาวะการระบาดของโคโรนาไวรัสทั่วโลก ที่ส่งผลกระทบต่อระบบห่วงโซ่อุปทานและการผลิต

หลังจากได้ขอให้สภาคองเกรสอนุมัติการพักการเก็บภาษีน้ำมันทั่วประเทศ และยังขอให้รัฐต่าง ๆ พิจารณามาตรการแบบเดียวกันนี้เมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อผู้บริโภคในประเทศ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีกำหนดการประชุมกับผู้นำจากซาอุดีอาระเบียในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อขอให้กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ ซึ่งก็คือ กลุ่มโอเปค ยกระดับการผลิตน้ำมันของตนด้วย

แต่สิ่งที่ผู้นำสหรัฐฯ เร่งดำเนินการทำอยู่นั้น ไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรครีพับลิกันเลย

Election 2022 What to Watch

จอห์น ธูน วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องให้มีการพักการเก็บภาษีน้ำมัน กล่าวว่า “สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้กำลังทำ คือ การพยายามเล่นลูกเล่นอีกครั้ง เหมือนหาพลาสเตอร์(มาแปะแผล) ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการทำเช่นนี้จะไม่ได้รับการอนุมัติเมื่อมาถึงสภาคองเกรสอย่างแน่นอน”

ขณะเดียวกัน ยังไม่มีสัญญาณจากรัสเซียว่า รัฐบาลมอสโกจะยอมถอยจากแผนทำสงครามในยูเครนแต่อย่างใด

UKRAINE-CRISIS/PUTIN-SPEECH

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า “เรา(รัฐบาลรัสเซีย)ภูมิใจว่า เหล่านักรบนั้นมีความกล้าหาญ เก่งกาจและต่อสู้คล้ายกับวีรบุรุษที่แท้จริง ในการเดินหน้าปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ขณะที่ ทหารรัสเซียซึ่งมีสัญชาติที่มาต่างกันได้ร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน และความแข็งแกร่งของกองทัพรัสเซียอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้นี้ เกิดขึ้นได้เพราะศรัทธาในเป้าหมายแห่งความถูกต้อง และแรงสนับสนุนจากเหล่าทหารทั้งหลายนั่นเอง”

แคทลีน แมคอินนิส นักวิเคราะห์อาวุโสแห่งสถาบัน Center for Strategic and International Studies ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ชี้ว่า การที่ประธานาธิบดีไบเดนมุ่งความสนใจไปยังผลกระทบของสงครามยูเครนต่อสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีความสำคัญยิ่งต่อการรักษาเสียงสนับสนุนจากประชาชนไว้

Kathleen McInnis, Center for Strategic and International Studies

แมคอินนิส กล่าวว่า การที่ปธน.ไบเดน มุ่งเน้นประเด็น “การปรับราคา(น้ำมัน)ขึ้นเพราะปูติน” (Putin Pump Price) เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เพราะตราบที่สงครามยังดำเนินต่อไป ผลกระทบจากสถานการณ์นี้ต่อเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกนาโต้ก็จะดำเนินต่อไปในรูปแบบที่แตกต่างกัน และราคาน้ำมันตามสถานีจ่ายในสหรัฐ​ฯ​ ที่ปรับเพิ่ม ก็ถือเป็น หนึ่งในนั้นด้วย”

ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาว กล่าวว่า การปรับขึ้นของราคาสินค้านั้นไม่ใช่ผลกระทบอย่างเดียวของสงครามรัสเซีย-ยูเครน เพราะรัสเซียได้ทำการปิดกั้นการส่งออกเมล็ดธัญพืชของยูเครนด้วย ซึ่งการทำเช่นนี้ได้ส่งผลกระทบไปไกลทั่วโลกด้วย

สำหรับประเด็นนี้ จอห์น เคอร์บี้ โฆษกเพนตากอน ให้ความเห็นว่า ปธน.ปูติน เปลี่ยนประเด็นเรื่องของภาวะอาหารให้กลายมาเป็นอาวุธสงคราม ด้วยการทำการกีดขวางการขนส่งสินค้าในบริเวณทะเลดำ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสำคัญของเมล็ดธัญพืชของยูเครนไปสู่ประเทศต่าง ๆ

อย่างไรเสีย ขณะที่ สงครามนี้ย่างเข้าสู่เดือนที่ 5 แล้ว คำตอบสำหรับคำถามที่ว่า ใครกันคือผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการสงครามครั้งนี้ น่าจะเป็นว่า ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากคนปุถุชนธรรมดาเช่นเรานั่นเอง

ที่มา: วีโอเอ