ผลโพลที่สำนักข่าวรอยเตอร์ร่วมทำกับบริษัทอิปซอสส์ พบว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ยังมีคะแนนนิยมเท่ากับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้นำสูงสุดในช่วงสัปดาห์นี้ สะท้อนสภาพการแข่งขันที่ยังคงสูสี ท่ามกลางคำถามเรื่องความพร้อมของไบเดน สืบเนื่องจากการโต้วาทีครั้งแรก
การสำรวจความเห็นผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 1,070 คนในวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา ที่มีค่าความคลาดเคลื่อนที่ 3.5% พบว่าไบเดนและทรัมป์ต่างได้รับการสนับสนุนคนละ 40% เทียบการสำรวจก่อนหน้านี้ที่ทำเมื่อ 11-12 มิถุนายนที่ผ่านมาพบว่าทรัมป์มีคะแนนนิยมมากกว่าที่ 41% ต่อ 39%
ในการสำรวจรอบล่าสุดนี้ มีหลายคนที่ยังคงลังเลว่าจะเลือกใคร ไม่แน่ใจว่าจะเปลี่ยนใจลงคะแนนให้ผู้ลงสมัครคนอื่นหรือไม่ รวมถึงอาจจะไม่ออกไปลงคะแนนเสียงเลย
ผลสำรวจไม่มีคำถามว่าจะสนับสนุนผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในนามอิสระ อย่างโรเบิร์ต เคนเนดี หรือไม่ แต่ผลโพลเมื่อเดือนมิถุนายนที่มีคำถามนี้ พบว่า 10% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าจะไปเลือก หากมีชื่อของเคนเนดีในบัตร
Your browser doesn’t support HTML5
ผลสำรวจอีกชุดที่จัดทำโดยสื่อ USA Today และมหาวิทยาลัยซัฟโฟล์ค ที่สอบถามความเห็นชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 1,000 คนในช่วงวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พบว่าทรัมป์ มีคะแนนนิยมเหนือกว่าไบเดนที่ 41% ต่อ 38%
ทั้งนี้ ผลโพลต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงเวลาที่เปลี่ยนไป
โพลทั้งสองทำขึ้นหลังจากการโต้วาที หรือดีเบทแคทดิเดตประธานาธิบดีครั้งแรกระหว่างทรัมป์และไบเดนที่นครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีการพูดถึงการที่ไบเดนพูดจาติดขัดอยู่เป็นระยะ และไม่สามารถท้าทายวาทะของทรัมป์ได้ในหลายครั้ง
ผลสำรวจของรอยเตอร์-อิปซอสส์ครั้งนี้ พบว่าผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตราวหนึ่งในสามมองว่าไบเดนควรถอนตัวจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าตัวออกมายืนกรานปฏิเสธไปแล้ว
ไบเดนและทรัมป์ต่างก็มีข้อท้าทายในรูปแบบของตัวเอง ในกรณีของไบเดน หนึ่งในข้อห่วงกังวลที่ถูกพูดถึงก็คือเรื่องของอายุอานาม 81 ปี ที่ถูกขยายปมมากขึ้นจากผลของการดีเบท
โพลรอยเตอร์-อิปซอสส์พบว่าผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 83% และผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน 97% เห็นด้วยกับข้อความที่ว่าไบเดนเหมือนจะแสดงออกซึ่งความชราของเขาในการดีเบทสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าความเห็นที่มีต่อทรัมป์ในประเด็นเรื่องสมรรถภาพในการดีเบท ที่กลุ่มเดโมแครตและรีพับลิกันเห็นด้วยที่ 58% และ 11% ตามลำดับ
ทรัมป์ ที่ปัจจุบันมีอายุ 78 ปี เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา โดยอดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้มีกำหนดฟังคำพิพากษาของศาลในเดือนกันยายน หลังลูกขุนตัดสินว่าเขามีความผิดใน 34 กระทงความผิดในคดีเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ก่อนการเลือกตั้งปี 2016 ซึ่งความผิดนี้อาจมีโทษถึงขั้นจำคุก
- ที่มา: รอยเตอร์, USA Today