นายโจเซฟ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ กำลังจะมีอายุครบ 78 ปีในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ นั่นหมายความหากชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ เขาจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุดขณะเข้ารับตำแหน่ง นำหน้าเจ้าของสถิติเดิม คือ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี ค.ศ. 2017 ในขณะที่มีอายุ 70 ปี
ไบเดน คร่ำหวอดในวงการการเมืองอเมริกันมานานกว่า 40 ปี และดำรงตำแหน่งสำคัญมากมาย รวมทั้งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสมัยของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เขาเคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาแล้ว 3 ครั้ง และมีเพียงครั้งนี้ที่ได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต จนกระทั่งก้าวสู่ชัยชนะได้ในที่สุด
36 ปีในตำแหน่ง ส.ว. แห่งรัฐเดลาแวร์
โจ ไบเดน เกิดและเติบโตที่รัฐเพนซิลเวเนีย ก่อนที่จะย้ายไปที่รัฐเดลาแวร์ซึ่งอยู่ติดกันและศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่ University of Delaware ไบเดนจบการศึกษาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัย Syracuse เมื่อปี ค.ศ. 1968
ไบเดนได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาจากรัฐเดลาแวร์สมัยแรกเมื่อปี 1972 ขณะที่มีอายุ 29 ปี และต่อมาชนะเลือกตั้งอีก 6 ครั้ง ทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ นานถึง 36 ปี และเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะกรรมาธิการด้านความสัมพันธ์ต่างประเทศ และด้านยุติธรรมของวุฒิสภาสหรัฐฯ หลายครั้ง
ระหว่างดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ส.ว.ไบเดน เคยออกเสียงสนับสนุนให้กองทัพสหรัฐฯ บุกอิรักเมื่อปี ค.ศ. 2003 ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายวิพากษวิจารณ์ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ในเรื่องการจัดการกับสงครามในอิรัก
ส.ว.ไบเดน เป็นที่รู้จักในเรื่องการประนีประนอมและสามารถทำงานได้กับทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ซึ่งต่อมามีสมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนที่ออกมาสนับสนุนนายไบเดนอย่างเปิดเผยในการแข่งขันเลือกตั้งกับประธานาธิบดีทรัมป์ครั้งนี้
จับคู่โอบามา - คว้าตั๋วรองประธานาธิบดี
ในปี ค.ศ. 2008 นายไบเดนลงสมัครแข่งขันตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับ ส.ว.บารัค โอบามา ในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม โอบามาได้เลือกไบเดนให้ลงสมัครคู่กับตนในตำแหน่งรองประธานาธิบดี
คู่ของ โอบาม่า - ไบเดน สามารถเอาชนะคู่สมัครจากพรรครีพับลิกัน ส.ว.จอห์น แมคเคน และผู้ว่าการรัฐแอลาสกา ซาราห์ เพลลิน ทำให้โอบามากลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ ขณะที่ โจ ไบเดน ได้เป็นรองประธานาธิบดีคนที่ 47 โดยทั้งคู่อยู่ในตำแหน่งนานสองสมัย หรือ 8 ปี
โศกนาฏกรรมในครอบครัว
โจ ไบเดน เคยเปิดเผยถึงเหตุเศร้าสลดในครอบครัวของตน เมื่อภรรยาคนแรก นีเลีย ไบเดน ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตพร้อมลูกสาววัย 13 เดือน นาโอมิ ไบเดน ไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ตนชนะเลือกตั้งวุฒิสมาชิกสมัยแรกเมื่อปี ค.ศ. 1972
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ไบเดนเกือบทิ้งเส้นทางทางการเมืองเพื่อดูแลบุตรชายวัยเยาว์สองคนที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น
เมื่อปี ค.ศ. 2015 หนึ่งในบุตรชาย คือ โจเซฟ "โบ" ไบเดน ที่ 3 ผู้เคยไปร่วมรบที่อิรักและดำรงตำแหน่งอัยการประจำรัฐเดลาแวร์ เสียชีวิตจากมะเร็งที่สมองในวัย 46 ปี ในขณะที่บุตรชายอีกคนหนึ่ง ฮันเตอร์ ไบเดน ประสบปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดก่อนที่จะได้รับการบำบัดในเวลาต่อมา
ลงชิงตัวแทนพรรคเดโมแครตแข่งทรัมป์
ในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2019 ไบเดนประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อแข่งขันกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยสามารถคว้าชัยชนะเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตได้ในเดือนมิถุนายน ปี 2020 และไบเดนได้เลือก ส.ว.คามาลา แฮรร์ริส จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้ลงคู่กันในตำแหน่งรองประธานาธิบดี
ไบเดน ชูนโยบายแนวทางสายกลางค่อนไปทางเสรีนิยม เช่น การขยายการครอบคลุมสำหรับการประกันสุขภาพจากกฎหมายประกันสุขภาพ Afforable Care Act หรือ โอบามาแคร์ การสนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการผลักดันให้สหรัฐฯ เข้าไปมีบทบาทนำบนเวทีโลกอีกครั้ง ด้วยการกลับไปทำข้อตกลงทวิภาคีสำคัญต่าง ๆ เช่น สนธิสัญญากรุงปารีสว่าด้วยการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก และสนธิสัญญายับยั้งการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน เป็นต้น
(เรียบเรียงข้อมูลจาก VOA Reuters และ AP)