สื่อมวลชนหลายแห่งในสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจเลือกนายแอนโทนี บลิงเค่น (Antony Blinken) หนึ่งในที่ปรึกษาใกล้ชิดของตนในด้านกิจการต่างประเทศ ให้นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในคณะรัฐบาลชุดใหม่
นายบลิงเค่น วัย 58 ปี คือผู้คร่ำหวอดในวงการกิจการต่างประเทศของสหรัฐฯ มานาน 20 ปี โดยสื่อต่าง ๆ รายงานว่า เขาเห็นด้วยกับนายไบเดนเรื่องการนำสหรัฐฯ กลับสู่บทบาทผู้นำในด้านต่าง ๆ บนเวทีโลก หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ถอนสหรัฐฯ ออกจากสนธิสัญญาและประชาคมระหว่างประเทศ ตามนโยบาย "อเมริกามาก่อน" ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
นายไบเดนเคยประกาศไว้ว่า สิ่งแรกที่ตนจะทำทันทีหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม คือการนำสหรัฐฯ กลับเข้าสู่สนธิสัญญากรุงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก การถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก และพยายามกลับเข้าสู่ข้อตกลงยับยั้งการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านอีกครั้ง
สำหรับนายแอนโทนี บลิงเค่น เคยทำงานให้กับอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ก่อนที่จะนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา รวมทั้งเคยอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดโมแครตในคณะกรรมาธิการด้านความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ด้วย
และนอกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแล้ว คณะทำงานส่งมอบอำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า นายไบเดนได้เตรียมเสนอชื่อบุคคลที่จะนั่งในตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ ในรัฐบาลชุดนี้เพิ่มเติมอีก 5 รายชื่อ รวมทั้ง อเลฮานโดร มายอร์กาส (Alejandro Mayorkas) ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ หรือ Homeland Security, เอฟวริล เฮนส์ (Avril Haines) ในตำแหน่งผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ, ลินดา ธอมัส-กรีนฟีลด์ (Linda Thomas-Greenfield) ในตำแหน่งทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ, เจค ซัลลิแวน (Jake Sullivan) ในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง และ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น แคร์รี (John Kerry) ในตำแหน่งผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีในกิจการด้านสภาพภูมิอากาศ
ในวันจันทร์ นายไบเดน และว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส จัดประชุมผ่านวิดีโอออนไลน์จากเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ร่วมกับองค์กร U.S. Conference of Mayors ซึ่งรวบรวมนายกเทศมนตรีของเมืองต่าง ๆ ในสหรัฐฯ มากกว่า 1,400 แห่งที่มีประชากรมากกว่า 30,000 คน
องค์กรดังกล่าวพยายามผลักดันให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพิ่มความช่วยเหลือให้แก่รัฐบาลส่วนท้องถิ่นในการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 หลังจากที่ร่างกฎหมายให้ความช่วยเหลือชุดใหม่ยังคงติดชะงักอยู่ในรัฐสภาสหรัฐฯ