ปธน.ไบเดน เปิดตัว แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์

President Joe Biden speaks during an event on COVID-19 vaccinations and the response to the pandemic, in the South Court Auditorium on the White House campus, March 29, 2021, in Washington.

Your browser doesn’t support HTML5

Business News


ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เปิดตัวแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ที่มีจุดประสงค์ปรับทิศทางและส่งเสริมความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพื่อแซงหน้าจีนให้ได้

การประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ นี้มีออกมาในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า โครงการนี้จะมุ่งซ่อมแซมถนนทั่วประเทศเป็นระยะทาง 32,000 กิโลเมตร สะพานที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ 10 แห่ง และสะพานเล็กๆ อีกราว 10,000 จุด รวมทั้ง กำจัดท่อตะกั่วในโครงข่ายบริการน้ำประปาที่เป็นอันตรายสำหรับผู้ใช้งานให้หมดสิ้น และยกระดับเครือข่ายการจ่ายไฟฟ้า ระบบบรอดแบนด์คอมพิวเตอร์ และระบบขนส่งครั้งใหญ่ด้วย

FILE - People gather as they celebrate media announcing that Democratic U.S. presidential nominee Joe Biden has won the 2020 U.S. presidential election, in Philadelphia, Pennsylvania, Nov. 7, 2020.

ปธน.ไบเดน ประกาศรายละเอียดแผนการลงทุนมูลค่าสูงนี้ ขณะเยือนเมืองพิตส์เบิร์ก ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมสำคัญเมืองหนึ่งในภาคพื้นตะวันออกของประเทศ และเป็นพื้นที่รัฐสมรภูมิในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตสามารถเอาชนะอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มาได้

และหลังจากสามารถผลักดันกฎหมายความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ผ่านรัฐสภาที่สมาชิกพรรครีพับลิกันพยายามคัดค้านมาได้ ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันมุ่งมั่นที่จะผ่านร่างกฎหมายใหม่นี้ให้ออกมาเป็นรูปธรรมให้ได้ โดยทำเนียบขาวระบุว่า “สหรัฐฯ คือประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่คุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานกลับถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก” และว่า “หลังจากหลายทศวรรษของการลดการลงทุน(โดยรัฐ) ถนนหนทาง สะพาน และระบบประปาของประเทศเริ่มทรุดโทรม ขณะที่ เครือข่ายการจ่ายไฟฟ้านั้นเริ่มย่ำแย่ลงจนเกิดเหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่จนสร้างความหายนะมาแล้ว และประชาชนจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในราคาที่สมเหตุสมผล รวมทั้งที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพได้เลย”

ผู้สื่อข่าวอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวรายหนึ่งและรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ วางแผนการลงทุนในโครงการต่างๆ ในช่วง 8 ปีจากนี้

ในส่วนของที่มาของเงินลงทุนก้อนนี้ ปธน.ไบเดน เสนอว่าให้จัดหามาจากรายได้ภาษีธุรกิจที่จะปรับขึ้นจากอัตราร้อยละ 21 เป็นร้อยละ 28 ขณะที่ เจน ซากิ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันพุธว่า ทางรัฐบาลยังคงเปิดรับแนวความคิดอื่นๆ เกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนมาสนับสนุนโครงการต่างๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส ที่มักสนับสนุนการใช้จ่ายภาครัฐสำหรับโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ดูแลของตนนั้น กลับแสดงท่าทีคัดค้านแผนการของปธน.ไบเดน ที่จะปรับขึ้นภาษี โดยอ้างว่า การกระทำดังกล่าวจะทำให้คนทำงานรับจ้างในประเทศเดือดร้อน และอาจทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง ทั้งยังอาจส่งผลให้ธุรกิจสัญชาติอเมริกันสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้