ปธน.ไบเดน ขอผู้นำเฮติ ‘ร่วมใจ’ เพื่อประเทศชาติ ขณะการสืบสวนเหตุลอบสังหารอดีตผู้นำเดินหน้าต่อไป

FILE - A protester holds up a sign during a rally against an increase in gang violence demonstrators say the government has proven incapable of controlling, in Port-au-Prince, Haiti, Dec. 10, 2020.

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เรียกร้องให้ผู้นำทางการเมืองของเฮติ ร่วมใจทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ ขณะที่การสืบสวนหาผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี โจเวเนล โมอิส ยังเดินหน้าต่อไป

ปธน.ไบเดน กล่าวระหว่างการร่วมประชุมที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ว่า “ประชาชนชาวเฮติ สมควรจะได้พบสันติสุขและความมั่นคงมีเสถียรภาพ” และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนยังคงติดตามสถานการณ์ความเป็นไปในประเทศในแคริบเบียนแห่งนี้มาตลอด นับตั้งแต่การเสียชีวิตของอดีตปธน.โมอิส

อดีตผู้นำเฮติถูกลอบสังหารที่ทำเนียบที่พักของตนในกรุงปอร์โตแปรงซ์เมื่อก่อนรุ่งสางของวันที่ 7 กรกฎาคม ขณะที่ มาร์ตีน โมอิส สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวมารับการรักษาที่โรงพยาบาลในรัฐฟลอริดาแล้ว

Christian Emmanuel Sanon, photo from Haitian National Police twitter account


ปธน.ไบเดน กล่าวด้วยว่า ตนได้ส่งคณะผู้แทนระดับสูงไปยังเฮติเพื่อประเมินสถานการณ์และแนะนำว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ควรจะทำการใดเพื่อสนับสนุนรัฐบาลเฮติบ้าง

ขณะเดียวกัน สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) แจ้งกับ วีโอเอ ผ่านทางอีเมล์ว่า ทางสำนักงานฯ ได้เริ่มทำงานร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในเฮติ และหุ้นส่วนงานด้านการรักษากฎหมายต่างๆ เพื่อสรุปว่า จะให้การสนับสนุนความพยายามโดยรวมของสหรัฐฯ ในการสืบสวนเหตุลอบสังหารอดีตผู้นำเฮติได้อย่างไรบ้าง

ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เฮติสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย 3 รายซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเฮติที่เกี่ยวข้องกับเหตุลอบสังหารดังกล่าวได้แล้ว และการจับกุมนี้ทำให้อัยการสหรัฐฯ มีอำนาจตามกฎหมายในการสืบสวนคดีนี้

White House press secretary Jen Psaki speaks during the daily briefing at the White House in Washington, Friday, July 9, 2021. (AP Photo/Susan Walsh)

เจน ซากิ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวในวันจันทร์ว่า ขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาคำร้องขอจากรัฐบาลเฮติ ให้ส่งเจ้าหน้าที่กองทัพเข้าไปช่วยควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการลอบสังหารอดีตปธน.โมอิส อยู่

ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ลีออง ชาร์ลส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเฮติ เปิดเผยว่า ผู้ส่างการการลอบสังหารอดีตผู้นำของประเทศ เป็นนายแพทย์ชาวอเมริกันเชื้อสายเฮติ ที่ชื่อ คริสเตียน เอมมานูเอล ซานอง วัย 63 ปี

ผู้บัญชาการ ชาร์ลส บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ซานอง เดินทางเข้ามาในเฮติด้วยเครื่องบินส่วนตัวตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน โดยเดินทางมาพร้อมกับมือปืนสัญชาติโคลอมเบีย ที่เจ้าหน้าที่เฮติจับกุมไปได้แล้วส่วนหนึ่ง โดย ซานอง คือ 1 ใน 3 ชาวอเมริกันสัญชาติเฮติที่ตำรวจจับกุมตัวได้

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเฮติ เปิดเผยด้วย ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่เป็นชาวโคลอมเบียในคดีนี้ทั้งหมด 18 รายแล้ว ขณะที่ ยังมีอย่างน้อยอีก 5 รายที่หลบหนีไปได้ในเวลานี้