สำนักข่าว The Associated Press รายงานว่า เมื่อวันอังคาร รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศปรับปรุงนโยบายคนเข้าเมืองในยุคอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวหลายพันครอบครัวที่พลัดพรากบริเวณชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะลงนามในคำสั่งว่าด้วยการพลัดพรากของครอบครัว ความมั่นคงตามชายแดน และการอพยพเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลให้ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งผู้นำฝ่ายบริหารที่เกี่ยวกับนโยบายคนเข้าเมือง 9 ฉบับในช่วงที่เขาเข้ารับตำแหน่งได้สองสัปดาห์
อเลฮานโดร มายอร์กาส ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ จะเป็นผู้นำทีมภารกิจช่วยเหลือครอบครัวที่พลัดพราก โดยเฉพาะพ่อแม่ที่พลัดพรากจากบุตรหลาน โดยเอกสารจากทางศาลระบุว่า มีเด็กราว 5,500 คนที่พลัดพราดจากพ่อแม่ในยุคของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และมีเด็กราว 600 คนที่ยังหาพ่อแม่ไม่พบ
สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (American Civil Liberties Union หรือ ACLU ) องค์กรที่ฟ้องร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ นำสมาชิกครอบครัวที่พลัดพรากให้กลับมาอยู่ด้วยกัน เรียกร้องให้รัฐบาลมอบสถานะตามกฎหมายให้ครอบครัวของสมาชิกถูกพลัดพราก และมอบเงินเยียวยาแก่ครอบครัวและทนาย
ส่วนการทบทวนความมั่นคงตามชายแดน จะรวมถึงนโยบายที่ให้ผู้ขอลี้ภัยรอฟังคำสั่งจากศาลคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ที่เมืองตามชายแดนของเม็กซิโก ซึ่งเป็นนโยบายในยุคของอดีตปธน.ทรัมป์ ครอบคลุมถึงผู้ขอที่ลี้ภัยเกือบ 70,000 คน นับตั้งแต่เริ่มโครงการในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019
ทำเนียบขาวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะสร้าง “ระบบลี้ภัยอย่างมีมนุษยธรรม” โดยยกเลิก หรือ ทบทวนนโยบายในยุคของทรัมป์ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปัจจุบันอาจใช้เวลาในการดำเนินการดังกล่าว โดยโรเบอร์ตา จาคอบสัน ทีมงานของไบเดนด้านชายแดน ขอให้ผู้อพยพ "อย่าเพิ่งเดินทาง" มายังชายแดนสหรัฐฯ ในช่วงนี้
นอกจากนี้ ทำเนียบขาวจะทบทวนกฎระเบียบ นโยบาย และข้อปฏิบัติที่สร้างกำแพงอุปสรรคต่อระบบผู้อพยพเข้าเมืองในปัจจุบัน รวมถึงกฎ Public Charge ในสมัยของทรัมป์ ที่ทำให้ผู้ที่ได้รับสวัสดิการจากโครงการของรัฐส่วนหนึ่งไม่สามารถขอกรีนการ์ดได้
ภายในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีไบเดนลงนามในคำสั่งระงับการก่อสร้างกำแพงชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก ยกเลิกการห้ามผู้เดินทางจากประเทศมุสลิมหลายประเทศเข้าสหรัฐฯ และยกเลิกการไม่นับรวมผู้ที่เดินทางเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเข้าไปในการสำรวจสำมะโนประชากรของปีที่แล้ว
ในวันเดียวกัน ปธน.ไบเดนยังลงนามในคำสั่ง ให้คงดำเนินการโครงการ DACA ที่ให้การคุ้มครองทางกฎหมายแก่คนหนุ่มสาวผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายพร้อมครอบครัวเมื่อยังเยาว์วัย ไม่ให้ถูกส่งตัวออกนอกประเทศ และยังเสนอกฎหมายที่จะให้สถานะทางกฎหมายและการปูทางไปสู่การได้สัญชาติแก่ชาวต่างชาติราว 11 ล้านคนในสหรัฐฯ ที่ยังไม่ได้รับสัญชาติอเมริกัน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ไบเดนจะยกเลิกการงดออกวีซ่าทำงานชั่วคราวและกรีนการ์ด ที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อใด และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน จะยกเลิกการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐขับไล่ผู้คนตามชายแดนได้ทันที ด้วยเหตุผลทางสาธารณสุขโดยไม่เปิดโอกาสให้พวกเขายื่นขอลี้ภัยได้เมื่อใด