ทำเนียบขาวจะปรับแนวทางแต่งตั้งบุคคลเชื้อสายเอเชียหลัง 'ส.ว.แทมมี่' ท้วงติง

Senator Tammy Duckworth (D-IL) carries her daughter Abigail during a mock swearing in with U.S. Vice President Joe Biden during the opening day of the 115th Congress on Capitol Hill in Washington, Jan. 3, 2017.

Your browser doesn’t support HTML5

Tammy Duckworth Biden Asian Hate Crime


เมื่อวันอังคารที่ 23 มีนาคม ที่สหรัฐฯ รัฐบาลชุดประธานาธิบดี โจ ไบเดนได้ให้คำมั่นว่าจะปรับแนวทางการสรรหาและแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงใหม่โดยจะเพิ่มความสำคัญต่อบุคคลที่มีเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก หรือ Asian Americans and Pacific Islanders (AAPI) ในการดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เชื้อสายไทย พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ ท้วงว่าจะไม่ลงมติร่วมรับรองผู้ที่โจ ไบเดนเสนอชื่อให้นั่งตำแหน่งสำคัญต่างๆ ในอนาคต

เรื่องดังกล่าวมีต้นตอมาจากการสัมภาษณ์ของส.ว. ดักเวิร์ธ จากรัฐอิลลินอยส์ กับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ของสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์ เธอออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลไบเดนให้ความสำคัญกับเสียงของคนกลุ่ม AAPI มากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวกลับบอกเธอหลายครั้ง ว่ารัฐบาลชุดนี้พอใจที่มีคามาลา แฮร์ริส สตรีผิวสีเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีของสหรัฐฯแล้ว เพื่อเป็นการให้ ส.ว.ดักเวิร์ธ เห็นด้วยกับจำนวนตัวแทน AAPI ในคณะรัฐมนตรีที่มีอยู่แล้วในตอนนี้

Vice President Kamala Harris takes part in a small business listening session at Maria Empanada in Denver, Colorado on March 16, 2021.

คำพูดดังกล่าวจากฝั่งทำเนียบขาวทำให้ ส.ว.เชื้อสายไทย ประกาศว่าจะไม่โหวตรับรองผู้ที่ได้รับการเสนอรายชื่อเข้าชิงตำแหน่งอื่นๆในรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน หากบุคคลเหล่านั้นขาดความหลากหลายทางเชื้อชาติ ส.ว.ดักเวิร์ธได้ต่อว่าว่าคำพูดดังกล่าวของฝ่ายทำเนียบขาวถือเป็นการดูถูกเธออย่างยิ่ง นอกจากนี้วุฒิสมาชิกจากเชื้อสายเอเชียจากรัฐฮาวาย แมสซี่ ฮิโรโนะ ก็เห็นด้วยและออกตัวว่าจะปฏิเสธการลงมติสนับสนุน หากรัฐบาลไบเดนละเลยคำเรียกร้องข้างต้นเช่นกัน

หลังเหตุกราดยิงร้านนวดที่รัฐจอร์เจียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคร่าชีวิตหญิงเชื้อสายเอเชียถึงหกคน วุฒิสมาชิกแทมมี่ดักเวิร์ธ ได้ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ชาวอเมริกันทุกฝ่ายหยุดปฏิบัติต่อชาวเอเชียนอเมริกันเหมือนเป็น "คนอื่น" ซึ่งเป็นการเติมเชื้อกระแสความเกลียดชังและการกีดกันชาวเอเชียนอเมริกันที่ดำเนินมากว่าหนึ่งปี นับตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าท่าทีดังกล่าวของ ส.ว. ทั้งสองท่านจะทำให้พรรคเดโมแครตเผชิญกับความยากลำบากในการผลักดันคนจากพรรคตนเองให้ได้รับการรับรองจากวุฒิสภาในตำแหน่งสำคัญต่างๆ ประธานาธิบดีไบเดนยังยืนยันอีกว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไบเดน มีความหลากหลายมากกว่าชุดใดในสหรัฐฯ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ แคทเธอรีน ไท โดยเธอได้รับการรับรองจากวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว

คำสัญญาจากรัฐบาลไบเดนเรื่องการความหลากหลายทางเชื้อชาติ

แต่ความขัดแย้งที่ดูเหมือนจะเริ่มบานปลายก็จบลงเมื่อคำ่วันอังคาร โดยโฆษกของส.ว.ดักเวิร์ธ แถลงว่ารัฐบาลไบเดนได้รับฟังคำร้องของเธอและให้คำมั่นว่าจะปรับการแต่งตั้งให้มีบุคคลเชื้อสายเอเชียมากขึ้นในตำแหน่งสำคัญต่างๆ ของรัฐบาลนี้ ซึ่งส.ว.เชื้อสายไทยก็ยินดีกับคำสัญญาดังกล่าวและกล่าวว่าจะไม่ปฏิเสธการรับรองในวุฒิสภาอีกต่อไป ส่วน ส.ว.จากรัฐฮาวายก็แสดงความพอใจและออกมาพูดในทำนองเดียวกันกับส.ว.ดักเวิร์ธ

FILE - In this Dec. 11, 2020, file photo Katherine Tai, the Biden administration's choice to take over as the U.S. trade representative, speaks during an event at The Queen theater in Wilmington, Del. President Joe Biden’s pick to be the top U.S…

ทั้งนี้โฆษกทำเนียบขาว เจน ซากีก็ออกมาแถลงการณ์เช่นกัน โดยกล่าวว่าประธานธิบดีโจ ไบเดนยังคงยึดมั่นว่ารัฐบาลของเขาสะท้อนถึงความหลากหลายทางเชื้อชาติเสมือนกับประเทศสหรัฐฯที่เป็นหม้อหลอมวัฒนธรรมต่างๆ ของประชากรอเมริกัน ทั้งนี้ เพื่อให้เสียงของชุมชน AAPI ได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น ทำเนียบขาวขอสัญญาว่าจะเลือกคนจากประชากรกลุ่มนี้ ให้มารับตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาล

โดยส.ว.เชื้อสายไทยบอกกับสำนักข่าว Politico ของสหรัฐฯว่า เธออยากเห็นรัฐบาลชุดนี้เสนอชื่อบุคคลเอเชียนอเมริกันให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะกรรมการกลางกับดูแลกิจการสื่อสาร (the Federal Communications Committee) สำนักงานงบประมาณแผ่นดิน (the Office of Management and Budget) หรือ ตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี

ส่วนทางด้านรองประธานิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส ได้ออกมาสนับสนุนประธานาธิบดีไบเดนผ่านสื่ออเมริกันซีบีเอสในวันรุ่งขึ้น เธอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้มีความหลากหลายเป็นประวัติศาสตร์จริงแต่การเลือกบุคคลที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมาดำรงตำแหน่งต่างๆยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น

การรับรองตำแหน่งสำคัญอื่นๆในวุฒิสภาสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ตำแหน่งสำคัญอื่นๆ เช่น ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะมีการโหวตรับรองในวุฒิสภาสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ก็ได้มีการเสนอชื่อบุคคลที่ความหลากหลายทางเชื้อชาติด้วย

ประธานาธิบดี ไบเดนต้องการให้ ดร.เรเชล เลอวีน แพทย์ใหญ่รัฐเพนซิลเวเนียดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ ซึ่งหากผ่านการรับรอง ดร.เลอวีนจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นสตรีข้ามเพศคนแรกที่ได้รับการรับรองจากวุฒิสภาเพื่อให้ร่วมรัฐบาลไบเดนในตำแหน่งดังกล่าว ส่วนอีกท่านคือนักการเมืองผิวสี อแดลเวล อดีเยอโม่ ที่ถูกมองว่าจะได้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

This undated handout photo obtained on January 19, 2021 courtesy of the Biden-Harris transition team shows Dr. Rachel Levine, nominated by US President-elect Joe Biden to serve as Assistant Secretary for Health at the United States Department of Health a

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าตำแหน่งที่ปรึกษาใหญ่ของกระทรวงกลาโหมหรือเพนตากอน ที่ทำเนียบขาวสนับสนุนให้นาย คอลลินส์​ คาล ให้ได้รับการรับรองในสัปดาห์นี้น่าจะเป็นไปได้ยาก นักวิเคราะห์ให้เหตุผลว่า ที่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะหากนายคาลได้รับเเต่งตั้ง ก็จะเกิดประเด็นวิจารณ์เรื่องการขาดความหลากหลายทางเชื้อชาติขึ้นอีก