Your browser doesn’t support HTML5
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นาฟตาลี เบนเนตต์ กล่าวกับซีอีโอของบริษัทยูนิลีเวอร์ (Unilever) ในวันอังคารว่า อิสราเอลจะตอบโต้อย่างแข็งกร้าวต่อบริษัทไอศกรีม เบน แอนด์ เจอรีย์ส (Ben & Jerry’s) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของยูนิลีเวอร์ หลังจากที่บริษัทไอศกรีมชื่อดังของสหรัฐฯ ประกาศว่าจะเลิกขายไอศกรีมในเขตเวสต์แบงค์และฝั่งตะวันออกของนครเยรูซาเล็ม
เบน แอนด์ เจอรีย์ส ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า จะไม่ต่ออายุใบอนุญาตให้แก่บริษัทตัวแทนผลิตและจำหน่ายไอศกรีมยี่ห้อนี้ในอิสราเอลที่จะหมดอายุลงในปีหน้า เพื่อต่อต้านการสร้างที่พักอาศัยของชาวยิวในเขตเวสต์แบงค์และฝั่งตะวันออกของนครเยรูซาเล็มซึ่งประชาคมโลกมองว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและบ่อนทำลายการสร้างสันติภาพกับปาเลสไตน์
สำนักนายกฯ อิสราเอล มีแถลงการณ์ว่า นายเบนเนตต์ได้เจรจากับซีอีโอของยูนิลีเวอร์ในวันอังคาร โดยระบุว่า การตัดสินใจของเบน แอนด์ เจอรีย์สจะก่อผลร้ายแรงตามมา และอิสราเอลจะตอบโต้อย่างแข็งกร้าวต่อการกระทำคว่ำบาตรใด ๆ ก็ตามที่มุ่งเป้ามาที่ประชาชนอิสราเอล
ยูนิลีเวอร์ของอังกฤษ ซื้อกิจการของเบน แอนด์ เจอรีย์ส เมื่อปี ค.ศ. 2000 โดยบริษัทไอศกรีมจากรัฐเวอร์มอนต์นี้ถือเป็นบริษัทระดับโลกแห่งแรกออกมาต่อต้านเรื่องนี้อย่างเปิดเผย โดยให้เหตุผลว่า “ขัดแย้งกับคุณค่าและนโยบายของบริษัท”
ปัจจุบัน มีชาวอิสราเอลอาศัยอยู่ในเขตเวสต์แบงค์ราว 500,000 คน และในฝั่งตะวันออกของเยรูซาเล็มราว 200,000 คน โดยอิสราเอลมองว่าพื้นที่นครเยรูซาเล็มทั้งหมดคือเมืองหลวงของอิสราเอล ในขณะที่ชาวปาเลสไตน์เชื่อว่าฝั่งตะวันออกของเยรูซาเล็มคือเมืองหลวงในอนาคตของพวกตน
(ที่มา: เอพี และวีโอเอ)