Your browser doesn’t support HTML5
ทางการออสเตรเลียกำลังพิจารณาที่จะบังคับให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 รับผิดชอบค่าใช้จ่ายจากการรักษาอาการป่วยที่เกิดจากการติดเชื้อโคโรนาไวรัสด้วยตนเอง ขณะที่ แพทย์และนักการเมืองบางกลุ่มแสดงความไม่พอใจต่อแนวคิดนี้ และแย้งว่า บริการทางการแพทย์ของประเทศนั้นเป็นสิทธิ์ที่ทุกคนควรได้รับอย่างเท่าเทียมกันและทั่วถึง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนนั้นเป็นผู้ที่ไม่มีความรับผิดชอบและสร้างภาระให้กับผู้เสียภาษี “เป็นมูลค่าสูงอย่างมาก” และคนเหล่านั้นควรจะถูกบังคับให้จ่ายค่ารักษาในโรงพยาบาลด้วยตนเอง
แต่สมาชิกบางรายของรัฐบาลกลางออสเตรเลียแสดงความสงสัยต่อข้อเสนอดังกล่าว ขณะที่สมาคมแพทย์ออสเตรเลีย กล่าวว่า ข้อเสนอเช่นนี้ “ผิดจรรยาบรรณ” และตั้งข้อสังเกตด้วยว่า อาจเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หากจะมีการนำมาบังคับใช้จริง
แพทย์หญิง แคเรน ไพรซ์ อธิการบดีของ Royal Australian College of General Practitioners บอกกับผู้สื่อข่าวของสื่อ Australian Broadcasting Corp ว่า การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อชุมชนผู้ด้อยโอกาสอย่างชัดเจน เพราะผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจำนวนมากอาจเป็นผู้ที่ไม่ได้รับข้อมูลความรู้ด้านสาธารณสุขเพียงพอ รวมทั้ง ผู้ที่เป็นสมาชิกชนพื้นเมืองก็เป็นอีกกลุ่มที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ
รายงานข่าวระบุว่า สัดส่วนของผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนในออสเตรเลียที่ฉีดยาครบโดสแล้วนั้นอยู่ที่ 90%
แต่ในวันพฤหัสบดี รัฐนิวเซาท์เวลส์ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ประจำวันที่สูงสุดเป็นประวัติการที่ 5,715 ราย
ในเวลานี้ คลินิกที่ให้บริการตรวจสอบการติดเชื้อทั่วออสเตรเลียกำลังทำงานอย่างหนัก เนื่องจากมีผู้คนแห่กันมาขอตรวจกันอย่างมากมายก่อนที่วันหยุดคริสต์มาสจะมาถึง เพราะรัฐบาลอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มีผลตรวจเป็นลบเท่านั้นถึงจะเดินทางข้ามรัฐและเขตปกครองต่างๆ ได้