การบำบัดปอดด้วยความร้อนช่วยลดอาการกำเริบได้

  • Carol Pearson
ผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่ที่เป็นโรคหอบหืดส่วนมากมักได้รับคำแนะนำจากแพทย์ให้พ่นยาขยายหลอดลมวันละสองครั้ง แม้ว่าอาการหอบหืดจะไม่กำเริบก็ตาม ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ช่วยขยายหลอดลมและลดปริมาณนเสมหะ ทำให้หายใจง่ายขึ้น ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์แบบพ่นนี้เป็นวิธีบำบัดอาการหอบหืดกำเริบที่ใช้กันทั่วไปและได้ผลมากที่สุด

อาการหอบหืดกำเริบเกิดจากหลอดลมในปอดอักเสบและบวม มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดอาการอักเสบนี้ บางอย่างเป็นปัจจัยทางพันธุกรรม บางอย่างเกิดจากสิ่งเเวดล้อม ฝุ่น มลพิษทางอากาศหรือแม้แต่ควันไฟอาจทำให้อาการหอบหืดกำเริบได้ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และในช่วงเปลี่ยนฤดูกาลต่างๆ อาจมีปริมาณฝุ่นผงกระจายในอากาศเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยหอบหืดอาจมีอาการกำเริบได้

คุณแฟรง กริซซาฟี ผู้ป่วยคนหนึ่งรู้ดีว่าผู้ป่วยโรคหอบหืดควรปฏิบัติตัวอย่างไรในการควบคุมอาการไม่ให้กำเริบ

เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า เขาเคยต้องพ่นยาขยายหลอดวันละสองครั้งคือช่วงเช้ากับช่วงเย็น โดยพ่นครั้งละสองที

คุณกริซซาฟีเข้าร่วมการทดลองรักษาโรคหอบหืดที่มีผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่เข้าร่วมมากกว่าสามร้อยคน โดยมีระดับอาการป่วยตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงปานกลาง การทดลองรักษาจัดทำในศูนย์การแพทย์ในมหาวิทยาลัยต่างๆรวมสิบแห่งในสหรัฐอเมริกา

แพทย์ทำการประเมินผู้ป่วยแต่ละคน เพื่อกำหนดระดับยาพ่นยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ปริมาณต่ำที่สุดที่สามารถควบคุมอาการหอบหืด ด็อกเตอร์วิลเลี่ยม คัลฮูน แห่งภาควิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย University of Texas หัวหน้าการทดลองรักษากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าปริมาณยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ที่ผู้ป่วยได้รับในช่วงการทดลองรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการป่วย หากอาการไม่รุนแรงก็ใช้ยาสเตียรอยด์น้อยลงแต่หากอาการรุนแรงก็ต้องเพิ่มปริมาณยา

หลังจากปรับปริมาณยาสเตียรอยด์ให้เหมาะกับความรุนแรงของโรคแล้ว แพทย์ในโครงการเริ่มแบ่งกลุ่มผู้ป่วยออกเป็นสามกลุ่มตามปริมาณยาที่ใช้ ผู้ป่วยกลุ่มแรกได้รับยาสเตียรอยด์ที่ปรับปริมาณให้เพียงพอกับความรุนแรงของอาการป่วยและพ่นยาตามปกติ

อีกกลุ่มหนึ่งได้รับยาสเตียรอยด์พ่นที่แพทย์ปรับปริมาณให้เหมาะสมกับอาการหลังจากทำการทดสอบโรคด้วยการตรวจระบบการหายใจแบบทันสมัย และกลุ่มที่สามได้รับคำเเนะนำให้ใช้ยาพ่นขยายหลอดลมเฉพาะเมื่ออาการกำเริบเท่านั้น

หลังจากทดลองรักษาแล้ว ทีมแพทย์พบว่าผู้ป่วยกลุ่มที่สามที่ใช้ยาพ่นเฉพาะตอนอาการหอบหืดกำเริบ ได้ผลในการรักษาดีเท่าๆกับผู้ป่วยกลุ่มอื่น แต่กลับใช้ยาสเตียรอยด์น้อยกว่าถึงครึ่งหนึ่ง

คุณกริซซาฟี ผู้ป่วยที่เข้าร่วมในการทดลองรักษากล่าวว่าปัจจุบันเขาแค่พ่นยาแค่ตอนเช้าเท่านั้นและพ่นทีเดียวและรู้สึกสบายดีทั้งวัน แม้ว่าจะใช้ยาน้อยลง อย่างไรก็ตามด็อกเตอร์คัลฮูนกล่าวว่าผู้ป่วยหอบหืดที่อาการไม่รุนแรงควรปรึกษาแพทย์ส่วนตัวเสียก่อนว่าควรใช้วิธีรักษาอย่างไรให้เหมาะสมกับระดับอาการป่วยของตนเอง

ในขณะเดียวกัน การทดลองรักษาผู้ป่วยหอบหืดวิธีใหม่ที่ไม่ใช้ยา เรียกว่าการใช้ความร้อนในกล้ามเนื้อปอด ได้ผลน่าพอใจและสร้างความหวังใหม่แก่ผู้ป่วย

ด็อกเตอร์สุมิตา คาทรี แห่งคลีนิค Clevelandในกรุงวอชิงตัน อธิบายว่า การรักษานี้เป็นการบำบัดด้วยความร้อนบริเวณผนังปอดและหลอดลมในปอดเพื่อลดความหนาของกล้ามเนื้อรอบๆหลอดลม ระหว่างการบำบัดหลอดลมด้วยความร้อนนี้ แพทย์จะสอดท่อเข้าไปในหลอดลมผู้ป่วยเพื่อเป็นตัวกระจายความร้อนเข้าไปในกล้ามเนื้อรอบๆหลอดลม ผู้ป่วยต้องพบแพทย์ทั้งหมดสามครั้งและแต่ละครั้งแพทย์จะบำบัดปอดในส่วนที่แตกต่างกันออกไป ผู้ป่วยหลายรายอาการดีขึ้นมากภายหลังพบแพทย์ครั้งที่สอง แต่ด็อกเตอร์คาทรีกล่าวว่านั่นไม่ได้หมายความว่าผู้ป่วยจะหายจากโรค แต่พบว่าอาการกำเริบรุนแรงน้อยลงและระยะเวลากำเริบจะสั้นลงด้วย