Your browser doesn’t support HTML5
องค์กรด้านส่งเสริมการมีส่วนร่วมการเลือกตั้งสหรัฐฯของชาวเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิคในอเมริกา Asian and Pacific Islander American Vote หรือ APIAVote จัดงานแลกเปลี่ยนความเห็น และรณรงค์ให้ข้อมูลระหว่างชาวเอเชียนอเมริกันเพื่อให้ออกไปเลือกตั้งมากขึ้น
งานนี้จัดตรงกับช่วงการจัดประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตที่นครฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย โดยมีตัวแทนกลุ่มชาวเอเชียจากทั่วสหรัฐเดินทางร่วมงาน
David Ige ผู้ว่าการรัฐฮาวาย ให้สัมภาษณ์กับ VOA ภาคภาษาไทย ระหว่างร่วมงานถึงและย้ำถึงความสำคัญของทุกคะแนนเสียง เพราะเขามีประสบการณ์การเลือกตั้งที่สูสีและชนะกันเพียง 10 กว่าเสียง หรือเพียง 100 เสียง
ผู้ว่าการรัฐฮาวายคนนี้ เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งและเป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกที่มีเชื้อสายชาวเอเชียจากเกาะ Okinawa เขาเชื่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ทุกคะแนนเสียงความหมาย โดยเฉพาะชาวเอเชียนอเมริกันซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยจำเป็นต้องมีส่วนร่วมทางการเมือง และเพื่อให้เข้าใจถึงคุณค่าของชาวเอเชีย ของผู้ที่จะชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
Karen Narasaki ผู้นำการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมือง และเป็นคณะกรรมาธิการด้านสิทธิพลเมืองหรือ U.S. Commission on Civil Rights ของประธานาธิบดี บารัค โอบามา บอกว่า แม้ปัญหาชุมชนเอเชียนอเมริกาจะได้รับความสนใจมากขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา และออกไปใช้สิทธิ์มากขึ้น ซึ่งทำให้พบข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับชุมชนเอเชียมากขึ้นแต่เธอ ย้ำว่า ถ้าไม่ออกไปเลือกตั้ง ผู้นำทางการเมืองจะไม่ให้ความสนใจกับปัญหาต่างๆของชุมชน
ในงานนี้มีตัวแทนชุมชนไทย คือ คุณ ยุทธนา ลิ้มเลิศวาที ที่มีส่วนร่วมในงานของ APIA ในปีนี้ และหนึ่วในคณะกรรมการองค์กรชาวเอเขียที่ช่วยผลักดันให้มีภาษาไทย ในกิจกรรมรณรงค์การเลือกตั้งกับชุมชนไทย อธิบายว่า ที่ผ่านมาคนไทยมักไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งค่อนข้างจะน้อย และไม่ยอมไปลงทะเบียนเลือกตั้ง จึงทำให้ต้องเร่งรณรงค์ให้มากขึ้นเพราะ การเลือกตั้งนี้ไม่ได้มีผลต่อเราคนเดียว แต่มีผลต่อคนทั่วโลก แต่ถ้าคนไทยมีส่วมร่วม จะถือเป็นสิ่งที่ดี
รายงานวิจัยขององค์กรส่งเสริมการเลือกตั้งของชาวเอเชียระบุว่า กลุ่มเอเชียนอเมริกัน คือกลุ่มประชากรที่กำลังเติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐ แต่ก็ยังมีความท้าทายหลายด้านที่ทำให้ประชากรกลุ่มนี้ ไม่ได้ก้าวไปสู่ตำแหน่งผู้นำทางการเมืองมากเท่าที่ควร และไม่ได้มีส่วนร่วมในการเมืองมากนัก และการจัดงานรณรงค์การเลือกตั้งสำหรับชาวเอเชียเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในลักษณะนี้ให้มากขึ้น