สิงคโปร์มีนโยบายถมทะเลเพื่อขยายพื้นที่ของตนและสามารถเพิ่มเนื้อที่ได้ถึง 22 % ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาด้วยวิธีดังกล่าว แต่การขยายพื้นที่และโครงการก่อสร้างต่างๆ ของสิงคโปร์ต้องอาศัยทรายที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเดิมนั้นสิงคโปร์ซื้อจากอินโดนีเซีย แต่หลังจากที่ชาวบ้านและกลุ่มด้านสิ่งแวดล้อมร้องเรียนเรื่องการขุดทรายจากก้นแม่น้ำและหาดทราย รัฐบาลอินโดนีเซียจึงมีคำสั่งห้ามการส่งออกทราย และขณะนี้กัมพูชาก็มีคำสั่งควบคุมการขุดและขายทรายเพื่อประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน แต่นาย George Boden แห่งองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม Global Witness ของอังกฤษบอกว่า ขณะนี้ธุรกิจลักลอบทำเหมืองทรายเพื่อการส่งออกกำลังย้ายฐานจากกัมพูชาไปยังพม่า บังคลาเทศ และฟิลิปปินส์แทน
ขณะนี้สิงคโปร์ตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายเนื้อที่อีกหลายสิบตารางกิโลเมตรใน 20 ปีข้างหน้าและเรื่องนี้ทำให้มีความต้องการทรายจำนวนมากสำหรับโครงการดังกล่าว และทรายที่สิงคโปร์ต้องใช้ในโครงการก่อสร้างมีทั้งทรายทะเลกับทรายน้ำจืด ที่มีคุณภาพดีกว่าสำหรับการก่อสร้างเพราะไม่มีสารกัดกร่อน ซึ่งนาย Gavin Greenwood นักวิเคราะห์ของบริษัท Allan & Associates ในฮ่องกงชี้ว่าความต้องการทรายนี้ทำให้เกิดตลาดมืดในประเทศต่างๆ ที่ลักลอบขุดและขายทรายให้กับสิงคโปร์ และรัฐบาลสิงค์โปร์ก็ได้กำหนดว่าทรายที่จะนำมาใช้ในประเทศนั้นต้องมีใบอนุญาตรับรองว่าถูกต้องตามกฏหมาย
ขณะนี้มีหลายบริษัทในเอเซียทั้งในประเทศไทย กัมพูชา เวียดนาม และฟิลิปปินส์ที่เสนอขายทรายน้ำจืด เช่นบริษัทชื่อ Bangkok International และบริษัท Myanmar Asia Glory Trading ซึ่งอ้างว่าทรายของตนมาจากแม่น้ำสาละวินและอิรวดี และถึงแม้นักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมจะชี้ว่าการทำเหมืองทรายสร้างผลเสียหายต่อแม่น้ำ แหล่งเพาะพันธ์ปลา และชาวบ้านในบริเวณนั้นก็ตาม แต่การบังคับใช้กฏหมายในประเทศเหล่านี้ยังย่อหย่อนเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เกี่ยวพันอยู่
นาย S.M. Murthu นักสิ่งแวดล้อมของ Malaysia Nature Society ในมาเลเซียชี้ว่าในขณะนี้การลักลอบนำทรายเข้าไปในสิงคโปร์มาจากแทบทุกประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และเขาเคยเห็นหมู่บ้านในบริเวณที่มีการขุดทรายต้องจมลงไปในแม่น้ำ
แต่นอกจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว นโยบายการถมทะเลเพื่อขยายเนื้อที่ของสิงคโปร์ยังส่งผลต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านด้วย เพราะทั้งอินโดนีเซียกับมาเลเซียเกรงว่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นของสิงคโปร์นั้นอาจจะรุกล้ำเข้าไปในน่านน้ำของตนได้