อเมริกันชนแห่จองรถยนต์ไฟฟ้า หลังราคาน้ำมันพุ่งสูงสุดในรอบหลายปี

VinFast CEO Michael Lohscheller introduces the new VF e35 EV at the AutoMobility LA Auto Show, Nov. 17, 2021, in Los Angeles.

Your browser doesn’t support HTML5

Business News


ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้กำลังสร้างความไม่พอใจให้กับคนอเมริกันจำนวนมาก และสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่น้อย แต่ในทางกลับกันก็อาจทำให้แผนของไบเดนที่ต้องการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมรถยนต์อเมริกันให้ใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นนั้น เกิดขึ้นได้เร็วกว่าเดิมด้วย

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงผกผันกับราคาน้ำมัน แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะคำนวณความสัมพันธ์ดังกล่าวออกมาเป็นตัวเลขก็ตาม

ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายนปีนี้ คาดว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในอเมริกาอยู่ที่ระดับ 468,000 คัน เพิ่มขึ้นจากยอดขายของปีที่แล้วทั้งปีราว 45% ตามข้อมูลของ Atlas Public Policy ซึ่งติดตามเก็บข้อมูลในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

เฉพาะในเดือนกันยายนซึ่งระดับราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างมาก ผู้บริโภคอเมริกันซื้อรถยนต์ไฟฟ้า 57,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 63% และเพิ่มขึ้น 90% จากสองปีก่อน

Your browser doesn’t support HTML5

ยอดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในอเมริกาเพิ่ม หลังราคาน้ำมันพุ่งสูงในรอบหลายปี

ลูค โทนาเชล ผู้อำนวยการของ Natural Resources Defense Council กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ เป็นผลมาจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของรัฐบาล ต่างจากราคาค่าไฟฟ้าซึ่งค่อนข้างคงที่เพราะรัฐบาลควบคุมไว้ไม่ให้สูงจนเกินไป ดังนั้นผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าจึงสามารถคาดหวังได้ว่าจะมีต้นทุนค่าพลังงานที่คาดเดาได้และต่ำกว่าเจ้าของรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน

อนาคตของรถยนต์ไฟฟ้าในอเมริกา

นักวิเคราะห์เชื่อว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในอเมริกาปีนี้จะมีสัดส่วนราว 4% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมดในสหรัฐฯ เพิ่มจากระดับไม่ถึง 1% เมื่อ 5 ปีก่อน ขณะที่ LMC Automotive ซึ่งเก็บข้อมูลยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ภายในปี ค.ศ. 2030 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์พลังงานไฮบริดในอเมริกาจะเพิ่มขึ้นเป็น 34.2% ของรถยนต์ใหม่ทั้งหมด

FILES - In this file photo taken on August 13, 2021, cars charge at a Tesla super charging station in Arlington, Virginia.

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้มีการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ อย่างก้าวกระโดดมีหลายประการ นอกจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นแล้ว ประธานาธิบดีไบเดนเองก็มีนโยบายสนับสนุนยานพาหนะพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงครึ่งหนึ่งจากระดับเมื่อปี 2005 ให้ได้ภายในปี 2030

นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ยังมีแผนการสร้างเครือข่ายสถานีจ่ายไฟฟ้าทั่วประเทศภายใต้กฎหมายพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคของสหรัฐฯ มูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่ประธานาธิบดีไบเดนลงนามเมื่อเร็ว ๆ นี้

ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าก็มีความก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เชื่อว่าในอนาคต รถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถวิ่งได้ไกลขึ้นจากการชาร์จไฟแต่ละครั้ง รวมทั้งจะสามารถชาร์จไฟได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และรวดเร็วขึ้นอีกด้วย