นักวิทยาศาสตร์เริ่มต้นศึกษาว่า ผู้หญิงมีความเห็นอกเห็นใจมากกว่าผู้ชายจริงหรือไม่ โดยเป็นการค้นคว้าที่เก็บข้อมูลกว่า 50 ประเทศทั่วโลกเพื่อหาคำตอบในเรื่องนี้
ลุยซ่า พีท จากเมืองคูล รัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า เธอสามารถเข้าใจความรู้สึกของผู้คนและมองเห็นมุมมองของคนอื่น ๆ ได้เสมอ เธอมักจะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องผ่านการหย่าร้างที่ยากลำบากหรือคนรู้จักที่ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน และเธอมักจะรับฟังและแสดงความเห็นอกเห็นใจคนเหล่านั้นด้วย
พีทผู้มีทั้งลูกสาวและหลานสาวบอกกับวีโอเอว่า เธอคิดว่า ผู้หญิงมักจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ของผู้อื่น และสามารถเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาได้ดีกว่า
ทั้งนี้ พีทอาจจะเป็นกรณีศึกษาในเรื่องของความเห็นอกเห็นใจที่หลาย ๆ คนสงสัยอยู่แล้วว่า ผู้หญิงมักจะมีความรู้สึกแบบนั้นมากกว่าผู้ชาย
การศึกษาที่เผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ได้สำรวจผู้คนหลายหมื่นคนทั่วโลก เช่นเดียวกับการศึกษาอื่น ๆ ที่ระบุว่า ผู้หญิงสามารถเข้าใจความรู้สึกผู้อื่นได้มากกว่าผู้ชาย ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นฐานครอบครัวหรือวัฒนธรรมแบบไหนก็ตาม
เดวิด กรีนเบิร์ก (David Greenberg) นักวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นหัวหน้าในการศึกษานี้กล่าวว่า "การค้นพบของเราเป็นหลักฐานชิ้นแรก ๆ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของเรื่องดังกล่าวนี้
นักวิทยาศาสตร์พยายามที่จะวัดระดับการเอาใจใส่ทางความคิด ซึ่งก็คือการที่คนบางคนมีความเข้าใจว่าผู้อื่นอาจคิดหรือรู้สึกอย่างไร จากนั้นก็ทำนายว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างไร
ตัวอย่างเช่น หากเพื่อนคนหนึ่งบอกกับคุณว่าพวกเขาอารมณ์เสียเพราะมีเรื่องไม่ลงรอยกับใครบางคน ถ้าคุณเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น คุณก็จะเข้าใจว่า เพื่อนของคุณรู้สึกอย่างไรโดยการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้น
การศึกษาของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เป็นการศึกษาในหัวข้อนี้ที่ใหญ่ที่สุด โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งชายและหญิงประมาณ 306,000 คนจาก 57 ประเทศ ซึ่งรวมไปถึงประเทศอียิปต์ อินเดีย โครเอเชีย และซาอุดีอาระเบีย การศึกษาพบว่า โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงมีความเห็นอกเห็นใจทางความคิดสูงกว่าผู้ชายมาก ๆ ใน 36 ประเทศ และมีระดับที่ใกล้เคียงกับผู้ชายในอีก 21 ประเทศ แต่ไม่มีประเทศใดเลยที่ผู้ชายแสดงความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากกว่าผู้หญิง
แครี แอลิสัน (Carrie Allison) ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า "การศึกษานี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความแตกต่างทางเพศที่สอดคล้องกันในวงกว้างในแต่ละประเทศ ภาษา และกลุ่มอายุ"
อย่างเช่นแซนดรา เมอร์ฟี (Sandra Murphy) นักสังคมศาสตร์ที่เมืองทาโคมา พาร์ค รัฐแมริแลนด์ ที่บอกว่าตัวเธอเองชอบการวิเคราะห์มาก แต่สามีของเธอซึ่งเป็นทนายกลับเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจความรู้สึกคนอื่นได้มากกว่า
ส่องความเห็นใจด้วยสายตา
ในการวัดระดับความเห็นอกเห็นใจของผู้เข้าร่วมการศึกษา นักวิจัยใช้สิ่งที่เรียกว่าการทดสอบดวงตาเพื่อวัดความสามารถของบุคคลในการจดจำสภาพจิตใจหรืออารมณ์ของผู้อื่น
ผู้เข้าร่วมการศึกษาได้พิจารณาภาพถ่ายของการแสดงออกทางสีหน้าในรูปแบบต่าง ๆ ของผู้คน และคิดว่าคน ๆ หนึ่งอาจกำลังคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่ โดยมองไปที่บริเวณรอบ ๆ ดวงตาของคนเหล่านั้น จากนั้นผู้เข้าร่วมการศึกษาจะได้รับรายการคำที่อธิบายถึงสิ่งที่ตนเห็นอย่างจำกัด
ซินเธีย แคชชิงส์ (Cynthia Catchings) นักบำบัด ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของศูนย์ Women’s Emotional Wellness Center ในเมืองอเล็กซานเดรีย รัฐเวอร์จิเนีย กล่าวว่า “ผลการศึกษาพิสูจน์ได้ว่าผู้หญิงมีความเห็นอกเห็นใจมากกว่าผู้ชาย”
นอกจากนี้ แคชชิงส์ คิดว่าความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มาจากปัจจัยหลายอย่าง โดยส่วนใหญ่ต้องมาจากการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน การที่ผู้หญิงมีประสบการณ์ในการเข้าสังคมมากขึ้น และการที่หลาย ๆ คนมีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงอีกด้วย
- ที่มา: วีโอเอ