โล่งไปเปลาะ! ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ระงับคำสั่งห้ามนำเข้า ‘แอปเปิล วอทช์’

นาฬิกา แอปเปิล วอทช์ รุ่นหนึ่งที่คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ สั่งห้ามนำเข้าชั่วคราว ก่อนศาลอุทธรณ์ระดับรัฐบาลกลางจะมีคำตัดสินระงับคำสั่งดังกล่าวไว้ชั่วคราว

บริษัท แอปเปิล (Apple) ประสบความสำเร็จในการยื่นเรื่องขออุทธรณ์ให้มีการระงับคำสั่งห้ามนำเข้านาฬิกาสมาร์ทวอทช์ของตนชั่วคราว หลังบริษัทด้านการแพทย์แห่งหนึ่งยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ (International Trade Commission – ITC) และชี้ว่า บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำแห่งนี้ขโมยข้อมูลของตนไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

ศาลอุทธรณ์ในระดับรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ตัดสินในวันพุธให้มีการระงับใช้คำสั่งห้ามนำเข้านาฬิกาแอปเปิล วอทช์ (Apple Watch) ตามคำร้องฉุกเฉินของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีแห่งนี้

ประเด็นการห้ามนำเข้านาฬิกาดังกล่าวเกิดขึ้น หลังบริษัทเทคโนโลยีเฝ้าระวังทางการแพทย์ มาซิโม (Masimo) ยื่นเรื่องต่อ ITC ว่า แอปเปิลละเมิดสิทธิบัตรของตน จนทำให้คณะกรรมาธิการนี้ออกคำสั่งห้ามนำเข้านาฬิกาที่มีการใช้เทคโนโลยีตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือด รวมทั้งห้ามจำหน่ายในสหรัฐฯ ด้วย

SEE ALSO: ‘แอปเปิล’ ยื่นอุทธรณ์คำสั่งรัฐบาลสหรัฐฯ ห้ามนำเข้านาฬิกาสมาร์ทวอทช์

ผู้สื่อข่าวติดต่อไปทั้งสองบริษัทเพื่อขอความเห็นต่อคำตัดสินของศาลในวันนี้ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับใด

แดน ไอฟส์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เวดบุช (Wedbush Securities) ให้ความเห็นว่า นี่ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับแอปเปิลที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เนื่องจากประเด็นความซับซ้อนทางกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิบัตรนี้

ในเนื้อหาของคำพิพากษาซึ่งมีความยาว 4 ย่อหน้า มีการระบุว่าศาลขอระงับคำสั่งห้ามนำเข้ากล่าวไว้ โดยจะพิจารณาคำร้องของบริษัท Apple ที่ต้องการให้การระงับคำสั่งนี้มีผลในระยะยาวขึ้นไปพร้อม ๆ กันด้วย

ทางศาลให้เวลาแก่ ITC จนถึงวันที่ 10 มกราคมเพื่อตอบกลับคำร้องของ Apple

ในระหว่างนี้ แอปเปิลจะสามารถนำเข้าและจำหน่ายนาฬิกาแอปเปิลวอทช์ ซีรีส์ 9 (Series 9) และแอปเปิล วอทช์ อัลตร้า 2 (Ultra 2) อีกครั้ง หลังต้องพักไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังรับทราบการตัดสินใจของ ITC

ทั้งนี้ หากคำสั่งห้ามนำเข้ายังมีผลบังคับใช้อยู่ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีแห่งนี้น่าจะต้องสูญเงินอย่างต่ำหลายร้อยล้านดอลลาร์ หรืออาจมากถึงระดับพันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว ตามความเห็นของ เบน บาจาริน ซีอีโอ ของบริษัทวิเคราะห์ Creative Strategies ก่อนจะมีการประกาศคำตัดสินของศาลออกมา

  • ที่มา: รอยเตอร์