บริษัทแอปเปิล (Apple) ขอให้รัฐบาลสหรัฐฯ ทบทวนการตัดสินใจห้ามนำเข้านาฬิกา ‘แอปเปิล วอทช์’ (Apple Watch) ตามคำขอของบริษัทเทคโนโลยีเฝ้าระวังทางการแพทย์แห่งหนึ่ง โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปฏิเสธที่จะใช้อำนาจวีโต้เรื่องนี้ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำแห่งนี้ยังยื่นคำร้องฉุกเฉินในวันอังคารต่อศาลอุทธรณ์ในระดับรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ให้สั่งหยุดคำสั่งห้ามนำเข้าดังกล่าวจนกว่าสำนักงานศุลกากรและการป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ จะตัดสินใจว่า นาฬิกาของบริษัทที่มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์แล้วนั้นยังละเมิดสิทธิบัตรของบริษัท มาซิโม (Masimo) ผู้ยื่นคัดค้านการนำเข้าผลิตภัณฑ์นี้อยู่หรือไม่ และจนกว่า ศาลจะพิจารณาคำร้องของบริษัทเสร็จสิ้น
แอปเปิลระบุว่า สำนักงานศุลกากรฯ มีกำหนดจะตัดสินใจในเรื่องนี้ในวันที่ 12 มกราคม
ประเด็นนี้กลายมาเป็นปัญหาสำหรับบริษัทเทคโนโลยีแห่งนี้ หลัง Masimo กล่าวหาแอปเปิลว่า ใช้เงินซื้อพนักงานของตนไป ทั้งยังขโมยเทคโนโลยีการวัดค่าออกซิเจนในเลือดเพื่อนำไปใช้ในการออกแบบและผลิตนาฬิกาแอปเปิล วอทช์ด้วย
คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ (U.S. International Trade Commission - ITC) ผู้รับคำร้องนี้ได้ออกคำสั่งห้ามการนำเข้าและการจำหน่ายนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ที่มีเทคโนโลยีการตรวจค่าออกซิเจนในเลือดของแอปเปิล ซึ่งก็คือ ตั้งแต่รุ่น Series 6 ที่เปิดจำหน่ายมาในปี 2020 เป็นต้นมา
แคเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ตัดสินใจไม่กลับคำตัดสินห้ามนำเข้าดังกล่าว หลังปรึกษากับฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ก่อนที่ คำสั่งนี้จะมีผลเป็นที่สิ้นสุดเพื่อบังคับใช้ในวันอังคารที่ 26 ธันวาคม ตามการเปิดเผยของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ
คำแถลงการณ์จากแอปเปิลที่ออกมาในวันอังคารระบุว่า “เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจของ ITC และต่อคำสั่งที่มีออกมา และจะดำเนินมาตรการทั้งหมดเพื่อนำส่งนาฬิกาแอปเปิลวอทช์ ซีรีส์ 9 (Series 9) และแอปเปิล วอทช์ อัลตร้า 2 (Ultra 2) ให้กับลูกค้าในสหรัฐฯ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
โฆษกของแอปเปิลยืนยันด้วยว่า ทางบริษัทได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งห้ามนำเข้าต่อศาลในกรุงวอชิงตันแล้ว หลัง ITC ปฏิเสธเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต่อคำร้องขอของแอปเปิลในระงับคำสั่งนี้ไว้ฝยระหว่างรอกระบวนการอุทธรณ์
รายงานข่าวระบุว่า สำนักงานการค้าฯ คัดค้านการที่แอปเปิลขอให้ศาลระดับรัฐบาลกลางระงับการบังคับใช้คำสั่งห้ามนำเข้า ขณะที่ ตัวแทนของบริษัท Masimo ไม่ได้ตอบกลับคำขอความเห็นจากผู้สื่อข่าวในวันอังคาร
- ที่มา: รอยเตอร์