กลุ่มต่อต้านทำแท้งเดินขบวนในกรุงวอชิงตัน ขณะที่กลุ่มพลังหญิงเตรียมเดินขบวนพรุ่งนี้

Anti-abortion activists march towards the U.S. Supreme Court, during the March for Life in Washington, Jan. 18, 2019.

กลุ่มต่อต้านการทำแท้งเดินขบวนประจำปีในกรุงวอชิงตันในวันศุกร์ โดยมีประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวปราศรัยผ่านทางวิดีโอ สัญญาว่าจะสนับสนุนสิทธิของการมีชีวิตอยู่ หรือ Pro-Life และต่อต้านนโยบายทำแท้งเสรี

ประชาชนหลายพันคนเข้าร่วมการเดินขบวนที่เรียกว่า March for Life ครั้งที่ 46 บริเวณหน้าศาลสูงของสหรัฐฯ ใกล้อาคารรัฐสภา เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านคำตัดสินของศาลสูงที่ระบุให้การทำแท้งไม่เป็นเรื่องผิดกฎหมายทั่วประเทศเมื่อกว่า 40 ปีก่อน

March For Life

รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ ซึ่งเข้าร่วมในการเดินขบวนวันนี้ด้วย ได้นำเสนอวิดีโอคำปราศรัยของประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมบอกว่า "ประธานาธิบดีทรัมป์คือประธานาธิบดีที่สนับสนุนสิทธิในการมีชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน"

ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์เอง กล่าวในวิดีโอว่า "จะใช้สิทธิวีโต้ร่างกฎหมายทุกอย่างที่ำไม่ปกป้องสิทธิในการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์" นอกจากนี้ยังกล่าวยกย่องนโยบายของตนที่สกัดกั้นการให้งบประมาณสำหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางที่ให้คำปรึกษาเรื่องการทำแท้งด้วย

Women participate in International Women's Day Protest in Washington, D.C. on March 8, 2017. (Photo: E. Sarai / VOA)

และในวันพรุ่งนี้ คือวันเสาร์ที่ 19 มกราคม จะมีการเดินขบวนของกลุ่มสตรีในหลายเมืองของสหรัฐฯ และในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ การปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อม และสิทธิของคนเข้าเมืองในสหรัฐฯ

การเดินขบวนที่ใช้ชื่อว่า Women's March จัดขึ้นเป็นปีที่สามติดต่อกันในปีนี้ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากปี 2017 เมื่อกลุ่มสตรีและแนวร่วมนับแสนแสดงพลังต่อต้านปธน.ทรัมป์ ด้วยการเดินขบวนกลางกรุงวอชิงตัน หนึ่งวันหลังจาก ปธน.ทรัมป์รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ

คาดว่ามีคนร่วมเคลื่อนไหวราว 5 แสนคนในครั้งนั้น ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนสิทธิสตรีและต่อต้านนโนบายของประธานาธิบดีทรัมป์

SEE ALSO: กระหึ่ม!! กลุ่มสตรีนับแสนแสดงพลังต่อต้าน ปธน.ทรัมป์ ใน Women's March กลางกรุงวอชิงตัน

สัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวนี้คือหมวกไหมพรมสีชมพู ขณะที่ป้ายประท้วงแสดงข้อความที่หลากหลายเช่น "เสียงต่อต้านคือเสียงรักชาติ" "ความโกรธของข้าพเจ้ามีเหตุผล" และ "เราจะสู้เพื่อสิทธิในการตัดสินใจเรื่องการมีบุตร"