วีโอเอไทยสัมภาษณ์พิเศษ “แอน” จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ นักธุรกิจชาวไทยที่สร้างประวัติศาสตร์ เข้าซื้อกิจการบริษัท Miss Universe Organization เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จนกลายเป็นหญิงข้ามเพศคนแรก และนักธุรกิจที่ไม่ใช่ชาวอเมริกันคนแรกที่เป็นเจ้าของการประกวดนางงามระดับโลกเวทีที่มีอายุกว่า 70 ปีผู้นี้
วีโอเอไทยสรุปตัวอย่างบทสัมภาษณ์กับแอน จักรพงษ์ ที่นครนิวยอร์ก บางส่วน โดยจะเผยแพร่รายงานสัมภาษณ์ฉบับเต็มอีกครั้งเร็ว ๆ นี้
การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2022 ซึ่งเป็นการประกวดครั้งแรกภายใต้การนำของแอน จักรพงษ์ เสร็จสิ้นลงเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา โดยผู้ที่คว้ามงกุฎในครั้งนี้คือ อาร์บอนนีย์ แกเบรียล มิสยูเอสเอ 2022 ขณะที่แอนนา เสืองามเอี่ยม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2565 ทำผลงานดีที่สุดด้วยการคว้ารางวัล Transformational Leadership ซึ่งมาจากการลงคะแนนของผู้ชม แต่ไม่ได้เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายตามผลที่หลายสำนักคาดการณ์ไว้
แอน จักรพงษ์ กล่าวกับวีโอเอไทย หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลการประกวด โดยย้ำให้แฟนนางงามพัฒนามุมมองของตนให้ยอมรับผลการตัดสินจากกรรมการที่เธอกล่าวว่า เป็นสากล
“อันนี้อยากจะฝากพี่น้องชาวไทยว่า ต้องเป็นคนดูที่มีคุณภาพด้วย ต้องตามติดสิ่งที่มันมาแล้ว กับการเปลี่ยนแปลง พัฒนาการใหม่ๆ ถ้าเรายังพัฒนาไม่ทัน เราจะแข่งขันไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องนางงาม เรื่องอื่นด้วยเช่นกัน เข้าข้างตัวเองไม่ได้”
“...เราเป็นคนดู เรายังไม่เข้าใจมายเซ็ตจักรวาล แล้วเราจะไปถึงจักรวาลได้ไงในการเฟ้นหาผู้หญิงที่เป็นตัวแทนของเรา”
"ถ้าคุณไม่ออกจากพื้นที่ปลอดภัยของคุณ คุณตายนะ ไม่ว่าจะเป็นการประกวดนางงาม หรือเรื่องงาน ทุกเรื่อง ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้คือเรื่องที่พิสูจน์ตัวคุณว่าคุณพร้อมรับความแตกต่างหรือไม่ คุณออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองเป็นหรือยัง คุณพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองหรือยัง”
เจ้าของลิขสิทธิ์มิสยูนิเวิร์สชาวไทย ยืนยันด้วยว่า ผลการประกวดที่มิสยูเอสเอเป็นผู้ชนะนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารชาวอเมริกันของมิสยูนิเวิร์ส และไม่ได้เป็นการทิ้งทวนที่สหรัฐฯ จะส่งไม้ต่อการเป็นเจ้าภาพการประกวดให้เอลซัลวาดอร์ในปีหน้า
“ไม่เกี่ยว พอลลา (พอลลา ชูการ์ต ประธานของมิสยูนิเวิร์ส) ไม่เกี่ยว เอมี (เอมี เอ็มเมอร์ริช ซีอีโอของมิสยูนิเวิร์ส) ไม่เกี่ยว แม่ (คำแทนตัวของแอน จักรพงษ์) ไม่เกี่ยว เพราะถ้าเขาเกี่ยว เขาถูกไล่ออกไปแล้วสองคน ถูกไล่ออกแบบไม่ต้องพูดเลย มีสิทธิ์ไล่ออกเลย ถ้าแม่ทำนะ คนทั่วโลกไล่แม่ออกเหมือนกัน”
ทั้งนี้ สื่ออเมริกันหลายสำนักรายงานเมื่อวันพุธว่า บริษัท Miss Universe Organization ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข่าวการ “ล็อกมง” ของมิสยูนิเวิร์สเช่นกัน โดยกระแสข่าวเกิดขึ้นเนื่องจากบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป ที่แอน จักรพงษ์ เป็นซีอีโอ เป็นเจ้าของทั้งเวทีมิสยูนิเวิร์สและเวทีมิสยูเอสเอ
เอ็มเมอร์ริช ซีอีโอของมิสยูนิเวิร์ส กล่าวในแถลงการณ์ดังกล่าวว่า บริษัทบัญชียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เป็นผู้ดูแลและรับรองผลการตัดสินครั้งนี้ และยืนยันว่า อาร์บอนนีย์เป็น “ผู้เข้าแข็งขันที่ทรงพลัง อุทิศตน” และเป็น “มิสยูนิเวิร์สอย่างชอบธรรม”
เมื่อถามถึงมุมมองของแอน จักรพงษ์ ต่อการเสริมสร้างสะพายของมิสยูเวิร์สไทยแลนด์ให้แข็งแรงขึ้น โดยยกตัวอย่างเรื่องราวของแอนนาที่มีพื้นฐานมาจากครอบครัวคนเก็บขยะว่า ถือเป็นจุดแข็งมากพอเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ หรือไม่ แอน จักรพงษ์ กล่าวว่า เป็นจุดขายได้ แต่ยังไม่ครบวงจร
“โตมาจากการเป็นเด็กขยะ…เข้าใจ คนฟังก็ชื่นชม แล้ว force for good (พลังสร้างความดี) ตรงไหนอะ transformational leadership (ความเป็นผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลง) ตรงไหนอะ…เราเล่าน่ะ เราสรุปประเด็นสำคัญทันรึยัง แล้วเราต้องตอบคำถามตรงประเด็นแบบไวๆ นี่คือสิ่งที่ต้องฝึกฝน”
เธอย้ำว่า การประกวดนางงามอย่างมิสยูนิเวิร์สยังมีความสำคัญกับโลกยุคใหม่ ที่ส่งเสริมความหลากหลายของผู้หญิง รวมถึงการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ของประเทศต่างๆให้หญิงข้ามเพศเข้าประกวดได้ เธอยังเชื่อว่า กฎดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการรับรองการเปลี่ยนคำระบุเพศทางกฎหมายมากขึ้น
“Miss Universe Organization ประกาศแล้วว่า หญิงข้ามเพศทุกประเทศมาได้ แต่ต้องเป็น Miss ก่อน ต้องแปลงเพศเสร็จ ต้องเปลี่ยนทั้งเพศสภาพและคำนำหน้า มันต้องเกิดขึ้น …ทุกประเทศก็ต้องทำ ก็จะไปบอก ‘เฮ้ย ทำไมเรายังล้าหลังอะ Miss Universe Organization เค้าทำไปแล้วอะ เค้าอนุญาตให้เราไป แต่ถ้าเราไม่เปลี่ยนคำนำหน้า เราก็ไปไม่ได้อะ’ เพราะงั้นรัฐบาล รัฐบาลอยู่ไหนอะ”
“แอน” จักรพงษ์ ย้ำว่า เธอสนับสนุนให้ผู้หญิงมีความงามคู่กับความฉลาด เพราะผู้หญิงควรดูแลตนเองไปพร้อมกับการพัฒนามุมมอง ทัศนคติ และความเป็นผู้นำของตน
- รายงานโดย วรรษมน อุจจรินทร์ VOA Thai