นักธุรกิจชาวอเมริกันจากเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ยอมรับสารภาพผิดในข้อหาที่ว่า ตนรับเงินจากรัฐบาลเวเนซุเอลาเพื่อช่วยดำเนินธุรกิจบริการฝูงบินรบที่ซื้อมาจากรัสเซีย ซึ่งเป็นการละเมิดนโยบายมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อประเทศอเมริกาใต้แห่งนี้ ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
ฮอร์เฮ โนเบรกา นักธุรกิจชาวอเมริกันที่ถูกดำเนินคดีดังกล่าวปรากฏตัวต่อหน้าบัลลังก์ศาลรัฐบาลกลางในเมืองไมอามี และยอมรับว่า ตนเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสมรู้ร่วมคิดเพื่อช่วยเวเนซุเอลาหลบมาตรการลงโทษของสหรัฐฯ และได้รับเงินตอบแทนเป็นมูลค่าราว 3.5 ล้านดอลลาร์จากบริษัทน้ำมัน PDVSA ของรัฐบาลกรุงการากัส ซึ่งนำไปฝากไว้ในบัญชีของตนที่เปิดไว้ที่ธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศโปรตุเกส
ในการสารภาพผิดครั้งนี้ โนเบรกา ยอมรับด้วยว่า เงินค่าจ้างก้อนดังกล่าวถูกส่งผ่านบัญชีที่เป็นของบริษัท ทิปโก้ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับยางมะตอย และเป็นลูกค้าของ PDVSA มาเป็นเวลายาวนานแล้ว
สำนักข่าวเอพี พยายามทำรายงานสืบสวนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของบริษัท ทิปโก ในการช่วยเวเนซุเอลาหลบเลี่ยงมาตรการลงโทษของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อปี ค.ศ. 2020 และจวบจนวันนี้ ทางการสหรัฐฯ ยังไม่ได้มีการสั่งดำเนินคดีใดๆ ต่อบริษัทของไทยแห่งนี้
การดำเนินคดีต่อนักธุรกิจวัย 53 ปีซึ่งถือสัญชาติอเมริกันและเวเนซุเอลานี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนข้อหาอาชญากรรมมากมายต่อรัฐบาลเวเนซุเอลา กลายมาเป็นจุดสนใจอย่างมาก เพราะเป็นคดีแรกๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับกองทัพที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร
เมื่อปีที่แล้ว อัยการสหรัฐฯ ประกาศแผนดำเนินคดีต่อ โนเบรกา และเปิดเผยว่า นักธุรกิจอเมริกันรายนี้มีประวัติเดินทางไปยังฐานทัพอากาศหลายแห่งของเวเนซุเอลา และมีเส้นสายมิตรสหายในกองทัพเวเนซุเอลาด้วย โดยบริษัท Achabal Technologies ซึ่ง โนเบรกา จดทะเบียนจัดตั้งที่รัฐฟลอริดา ทำธุรกิจขายโฟมดับเพลิงให้กับกองทัพเวเนซุเอลา เพื่อป้องกันไม่ให้ถังน้ำมันของเครื่องบินรบระเบิดเมื่อถูกยิง
หลักฐานชิ้นหนึ่งที่อัยการนำเสนอต่อศาลคือ เสียงที่บันทึกจากการพูดคุยระหว่าง โนเบรกา และผู้แจ้งเบาะแสรายหนึ่งที่ไม่มีการระบุว่าเป็นใคร นักธุรกิจผู้ต้องหารายนี้โอ้อวดว่า ตนได้พบกับ วลาดิเมียร์ พาดริโน รัฐมนตรีกลาโหมเวเนซุเอลาแล้ว และยังพูดด้วยว่า โฟมที่บริษัทตนขายนั้นจะช่วยประหยัดเงินของกองทัพเวเนซุเอลาได้มากมาย จากการที่ไม่ต้องส่งฝูงบินของตนไปรัสเซียเพื่อรับบริการแก้ไขปัญหา
มาตรการลงโทษของสหรัฐฯ ต่อเวเนซุเอลานั้นมีผลทำให้บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ทั้งหลายไม่สามารถทำธุรกิจใดๆ กับบริษัท PDVSA ได้หากไม่ใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย ขณะที่ การส่งออกอุปกรณ์หรือบริการทางการทหารใดๆ ไปให้เวเนซุเอลานั้นต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เสียก่อนเช่นกัน ซึ่งในกรณีของบริษัท Achabal นั้น ไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่า ธุรกิจนี้มีเอกสารใดๆ ที่ว่ามานี้
รายงานข่าวระบุว่า โนเบรกา มีโอกาสที่จะถูกลงโทษจำคุกสูงสุดเป็นเวลา 5 ปี จากการกระทำความผิดในข้อหาต่างๆ ที่อัยการส่งฟ้อง
- ที่มา: เอพี