ครบรอบ 2 ปีสงครามยูเครน: เคียฟจะยันรัสเซียไว้ได้นานแค่ไหน?

สงครามในยูเครนเพิ่งครบรอบสองปีเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่อนาคตของยูเครนยังคงแขวนอยู่บนเส้นด้ายเนื่องจากการขาดแคลนทั้งกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการรับมือการรุกรานของรัสเซีย

ในช่วงปีแรกของการรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพรัสเซียได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่องและสามารถยึดครองดินแดนของยูเครนไว้ได้เกือบ 1 ใน 4 แต่หลังจากนั้นยูเครนเริ่มปฏิบัติการโต้กลับและยึดคืนพื้นที่กลับมาได้บางส่วนด้วยการสนับสนุนด้านอาวุธจากชาติตะวันตก

และในขณะที่สงครามกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่สาม ดูเหมือนยูเครนกลับมาเป็นฝ่ายถอยร่นอีกครั้ง พร้อมกับปัญหาท้าทายทั้งในด้านกำลังพล อาวุธและกระสุน ตลอดจนความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่เคยหลั่งไหลเข้าไปก็เริ่มเหือดแห้งลง นำไปสู่คำถามหลายประการต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากนี้

สถานการณ์การสู้รบในปัจจุบัน?์

แนวรบด้านตะวันออกของยูเครนเริ่มตึงเครียดอีกครั้งหลังจากที่รัสเซียได้รับชัยชนะในหลายพื้นที่ ทำให้กองทัพยูเครนต้องกลายเป็นฝ่ายถอยร่น ประกอบกับทรัพยากรทางทหารที่ลดน้อยลงและการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของกองทัพเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ยิ่งทำให้เกิดคำถามว่ายูเครนจะสามารถรับมือรัสเซียได้อีกนานแค่ไหน

พลเอกริชาร์ด แบร์รอนส์ แห่งกองทัพอังกฤษ ชี้ว่า "จากสถานการร์ตอนนี้ยังไม่มีฝ่ายไหนชนะหรือแพ้ และไม่มีฝ่ายไหนยอมถอดใจง่าย ๆ แม้ทั้งสองฝ่ายต่างประสบปัญหาขาดแคลนกำลังพลและอาวุธ"

กองทัพยูเครนประสบความยากลำบากหลังจากทุ่มสรรพกำลังในปฏิบัติโจมตีโต้กลับเมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว แต่ไม่สามารถสร้างความก้าวหน้าครั้งใหญ่ได้ และได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์ไปเน้นการตั้งรับเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

แต่เมื่อวันที่ 17 ก.พ. กองทัพรัสเซียสามารถยึดเมืองอัฟดิอิฟกาได้จากการโจมตีในทุกทิศทาง ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของรัสเซียในรอบหกเดือนหลังจากการยึดเมืองบาคห์มุต และเป็นสิ่งยืนยันว่าโมเมนตัมกำลังกลับไปอยู่กับทางรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม ยูเครนประสบความสำเร็จจากการโจมตีระยะไกลใส่กองบัญชาการกองทัพรัสเซียในทะเลดำใกล้กับแคว้นไครเมียที่รัสเซียยึดครองไป ทำลายเรือรบรัสเซียหลายลำ และทำให้เรือ 1 ใน 3 ของกองทัพเรือรัสเซียในทะเลดำใช้การไม่ได้ อ้างอิงจาก Atlantic Council

Your browser doesn’t support HTML5

เผยปัจจัยสหรัฐฯ และชาติตะวันตก กำหนดทิศทางสงครามในยูเครน

จำนวนผู้เสียชีวิตในรอบสองปีที่ผ่านมา

ทั้งรัสเซียและยูเครนมิได้เปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิตออกมามากนักนับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นเมื่อสองปีก่อน แต่ที่ชัดเจนคือมีพลเมืองชาวยูเครนเสียชีวิตไปแล้วหลายหมื่นคน

เมื่อปีที่แล้ว รายงานวิเคราะห์เชิงสถิติเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตในสงครามยูเครนชิ้นแรกขององค์กรอิสระ ซึ่งจัดทำโดยสื่อ Mediazona และ Meduza ในรัสเซีย ร่วมกับมหาวิทยาลัยทูบิงเกน (Tübingen University) ในเยอรมนี ระบุว่ามีชายชาวรัสเซียเกือบ 50,000 คนที่เสียชีวิตในสงครามครั้งนี้

ปัญหาขาดแคลนกำลังพลและอาวุธ

หากไม่มีกำลังเสริม แนวรับของยูเครนอาจเปราะบางลงจะถูกรัสเซียโจมตีพังทลายได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรัสเซียระดมถล่มด้วยอาวุธอย่างหนักตลอดแนวหน้าระยะทาง 1,000 กม.ทางภาคตะวันออก

คาดว่าขณะนี้กองทัพยูเครนขาดแคลนกำลังพลโดยเฉลี่ยราว 25% ทุกกองพัน ทหารที่มีอยู่ส่วนใหญ่ต่างเหนื่อยล้าและได้รับบาดเจ็บจากการยกระดับการโจมตีของรัสเซีย

ผู้บัญชาการกองทัพยูเครนระบุว่า เวลานี้ไม่มีทหารพอสำหรับการขุดสนามเพลาะหรือใช้ปฏิบัติการเชิงรุกอีกต่อไป ทำให้ต้องปรับมาใช้ยุทธศาสตร์การตั้งรับและเน้นที่การรักษาชีวิตของทหารเอาไว้ แม้จะต้องยอมสูญเสียดินแดนบางส่วนก็ตาม

ผู้นำกองทัพยูเครนกล่าวว่า จำเป็นต้องมีกำลังเสริมอีกราว 450,000 - 500,000 คนสำหรับทำสงครามขั้นต่อไป ซึ่งดูเหมือนเป็นไปได้ยาก แต่หากทำได้จริง ยูเครนก็ยังคงมีกำลังพลน้อยกว่ารัสเซียหลายเท่า

ในส่วนของปัญหาขาดแคลนอาวุธและกระสุน กองทัพยูเครนใช้วิธีจำกัดจำนวนกระสุนที่ส่งไปยังแนวหน้าเพื่อรักษาคลังกระสุนสำรองเอาไว้ให้นานที่สุด ขณะที่การขอความช่วยเหลือด้านอาวุธไปยังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปยังไม่ได้รับการตอบสนองตามที่มีการรับปากไว้

ผู้บัญชาการกองทัพยูเครนชี้ว่า เวลานี้ยูเครนขาดแคลนกระสุนเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะกระสุนปืนใหญ่พิสัยไกลที่ใช้ทั้งในด้านการป้องกันทหารราบและโจมตีกองกำลังศัตรู และปัญหานี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว

พลเอกแบร์รอนส์ แห่งกองทัพอังกฤษ กล่าวว่า รัสเซียได้สั่งเร่งผลิตกระสุนปืนใหญ่ให้ได้ถึง 5,000 ลูกต่อวัน ซึ่งแม้ยูเครนจะเร่งเพิ่มการผลิตกระสุนในประเทศแต่ก็ยังไม่สามารถตามทันศักยภาพการผลิตของรัสเซียได้

Your browser doesn’t support HTML5

สหรัฐฯ อัดมาตรการลงโทษรัสเซีย ในวาระ 2 ปีสงครามยูเครน

ชาติตะวันตกลดการสนับสนุนลงหรือไม่ และผลกระทบที่จะตามมา?

ที่่ผ่านมา ยูเครนพึ่งพาความช่วยเหลือด้านอาวุธจากพันธมิตรชาติตะวันตกและองค์กรระหว่างประเทศ ในการรับมือรัสเซีย ตลอดจนความช่วยเหลือด้านการเงินและด้านมนุษยธรรม

หากความช่วยเหลือดังกล่าวหดหายไป ยูเครนจะไม่สามารถรับมือสงครามในระยะยาวได้ รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อประชาชนยูเครนที่ตกอยู่ในภาวะยากลำบากจากความขัดแย้งครั้งนี้

เมื่อต้นเดือนนี้ ยูเครนสามารถถอนหายใจได้บ้างเมื่อสหภาพยุโรปอนุมัติให้ขยายความช่วยเหลือมูลค่า 54,000 ล้านดอลลาร์แก่ยูเครน แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจากฮังการี แต่เงินก้อนนั้นมุ่งเป้าไปที่การช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและฟื้นฟูประเทศเป็นหลัก ไม่ใช่เพื่อการต่อสู้กับรัสเซีย

ขณะเดียวกัน มาตรการช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์จากสหรัฐฯ ก็ยังคงติดชะงักในรัฐสภาอเมริกัน โดยความช่วยเหลือที่ผู้นำยูเครนเฝ้ารออยู่นี้รวมถึงการซื้ออาวุธจากบริษัทอเมริกัน การได้รับการฝึกฝนทางทหารและความสนับสนุนด้านข่าวกรองจากกองทัพสหรัฐฯ ตลอดจนงบประมาณทางทหารโดยตรงแก่กรุงเคียฟ

นอกจากนี้ ยูคเรนยังต้องการให้ชาติตะวันตกยื่นมือช่วยในการจ่ายเงินเดือนแก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐและบุคลากรทางการแพทย์ในยูเครน ในขณะที่สหประชาชาติก้กำลังพยายามขอเงินบริจาค 3,100 ล้านดอลลาร์เพื่อใช้ในการจัดหาความ่ชวยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนยุเครนราว 8.5 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเขตแนวหน้าของสงครามครั้งนี้ด้วย

  • ที่มา: เอพี