คุณ Jim Nyabu นักอนุรักษ์ชาวเคนย่า เพิ่งสิ้นสุดการเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 900 กม. จากนครบอสตันในรัฐแมสซาชูเสตต์มาถึงกรุงวอชิงตัน โดยนักอนุรักษ์ผู้นี้ตั้งใจจะเข้าร่วมในการเดินขบวน International March for Elephant ที่กรุงวอชิงตัน เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาการฆ่าช้างเพื่อเอางาในแถบอาฟริกา
ตลอดเวลาราว 1 เดือนที่เขาเดินเท้าเป็นระยะทางเกือบ 1,000 กม. ชายชาวเคนย่าผู้นี้แวะพูดคุยกับชาวอเมริกันที่เขาพบ เพื่อบอกให้พวกเขาทราบถึงปัญหาช้างอาฟริกันลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความต้องการงาช้างสูงขึ้นในเอเชีย เขาบอกว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ถามว่าทำไมพวกเขาต้องใส่ใจว่าจะมีช้างในอาฟริกาถูกฆ่ามากแค่ไหน? ซึ่งเขามักจะตอบกลับไปว่า เพราะอเมริกาคือตลาดใหญ่อันดับสองของโลกสำหรับงาช้างผิดกฎหมาย
หลังจากเดินเท้าถึงกรุงวอชิงตัน คุณ Nyabu มีโอกาสไปกล่าวต่อนักศึกษาที่ American University เกี่ยวกับชะตากรรมของช้างอาฟริกัน ปัญหาสำคัญที่เขาพูดถึงคือคนทั่วไปที่นิยมชมชอบสินค้าจากงาช้าง ยังไม่ตระหนักว่าเวลาที่นักล่าสัตว์ตัดงาของช้างออกมา พวกเขาจะฆ่าช้างตัวนั้นด้วย
รายงานของกองทุนสัตว์ป่าโลกระบุว่า มีช้างอาฟริกันถูกฆ่าตายเกือบ 100 ตัวในแต่ละวัน และในช่วง 10 ปีมานี้มีช้างหายไปจากป่าทึบในอาฟริกาแล้วถึง 50% คุณ Crawford Allan ของกองทุนสัตว์ป่าโลกบอกว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็มีโอกาสที่ช้างจะหายไปจากป่าทึบในอาฟริกา 100% ในอีก 10 ปีข้างหน้า และจะเหลือเพียงช้างในแถบทุ่งหญ้าสะวันน่าทางภาคตะวันออกของอาฟริกาเท่านั้น
คุณ Crawford Allan บอกว่าปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งคือประเทศในอาฟริกายังขาดแคลนบุคลากร อุปกรณ์ และงบประมาณในการปกป้องดูแลช้างในพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ไพศาล เปรียบเสมือนการหาเข็มในกองฟาง
ด้านคุณ Jim Nyabu นักอนุรักษ์ชาวเคนย่าผู้เดินเท้าจากบอสตันมากรุงวอชิงตัน บอกว่าการรณรงค์ของตนจะไม่หยุดแค่นี้ แต่เขายังมีแผนจะเดินทางไกลทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐ และจะข้ามไปเดินเท้าที่ประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับงาช้างด้วย เป้าหมายเพื่อให้ช้างในอาฟริกาสามารถนอนหลับได้อย่างเป็นสุข ไม่ต้องสะดุ้งตื่นเพราะกลัวว่าใครจะมาเอาชีวิตและงาของพวกมันไป
รายงานจาก Pam Dockins / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล
ตลอดเวลาราว 1 เดือนที่เขาเดินเท้าเป็นระยะทางเกือบ 1,000 กม. ชายชาวเคนย่าผู้นี้แวะพูดคุยกับชาวอเมริกันที่เขาพบ เพื่อบอกให้พวกเขาทราบถึงปัญหาช้างอาฟริกันลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความต้องการงาช้างสูงขึ้นในเอเชีย เขาบอกว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ถามว่าทำไมพวกเขาต้องใส่ใจว่าจะมีช้างในอาฟริกาถูกฆ่ามากแค่ไหน? ซึ่งเขามักจะตอบกลับไปว่า เพราะอเมริกาคือตลาดใหญ่อันดับสองของโลกสำหรับงาช้างผิดกฎหมาย
หลังจากเดินเท้าถึงกรุงวอชิงตัน คุณ Nyabu มีโอกาสไปกล่าวต่อนักศึกษาที่ American University เกี่ยวกับชะตากรรมของช้างอาฟริกัน ปัญหาสำคัญที่เขาพูดถึงคือคนทั่วไปที่นิยมชมชอบสินค้าจากงาช้าง ยังไม่ตระหนักว่าเวลาที่นักล่าสัตว์ตัดงาของช้างออกมา พวกเขาจะฆ่าช้างตัวนั้นด้วย
รายงานของกองทุนสัตว์ป่าโลกระบุว่า มีช้างอาฟริกันถูกฆ่าตายเกือบ 100 ตัวในแต่ละวัน และในช่วง 10 ปีมานี้มีช้างหายไปจากป่าทึบในอาฟริกาแล้วถึง 50% คุณ Crawford Allan ของกองทุนสัตว์ป่าโลกบอกว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็มีโอกาสที่ช้างจะหายไปจากป่าทึบในอาฟริกา 100% ในอีก 10 ปีข้างหน้า และจะเหลือเพียงช้างในแถบทุ่งหญ้าสะวันน่าทางภาคตะวันออกของอาฟริกาเท่านั้น
คุณ Crawford Allan บอกว่าปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งคือประเทศในอาฟริกายังขาดแคลนบุคลากร อุปกรณ์ และงบประมาณในการปกป้องดูแลช้างในพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ไพศาล เปรียบเสมือนการหาเข็มในกองฟาง
ด้านคุณ Jim Nyabu นักอนุรักษ์ชาวเคนย่าผู้เดินเท้าจากบอสตันมากรุงวอชิงตัน บอกว่าการรณรงค์ของตนจะไม่หยุดแค่นี้ แต่เขายังมีแผนจะเดินทางไกลทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐ และจะข้ามไปเดินเท้าที่ประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับงาช้างด้วย เป้าหมายเพื่อให้ช้างในอาฟริกาสามารถนอนหลับได้อย่างเป็นสุข ไม่ต้องสะดุ้งตื่นเพราะกลัวว่าใครจะมาเอาชีวิตและงาของพวกมันไป
รายงานจาก Pam Dockins / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล