Your browser doesn’t support HTML5
ตั้งแต่ที่ตาลิบันยึดอำนาจการปกครองอัฟกานิสถานมาช่วงกลางเดือนสิงหาคม สหรัฐฯ ช่วยนำคนออกจากพื้นที่ดังกล่าวกว่า 70,000 คน ถือเป็นภารกิจที่ใช้อากาศยานอพยพผู้คนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
สำนักข่าวเอพี (Associated Press) รวบรวมเกร็ดความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการนำคนออกจากอัฟกานิสถาน การช่วยคนให้ตั้งต้นชีวิตในดินเเดนใหม่ รวมถึงอุปสรรคในการดำเนินการในเรื่องนี้ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าภารกิจนี้เกิดขึ้นอย่างโกลาหล นอกจากนั้นยังมีตัวเลขเปรียบเทียบการอพยพคนออกจากไซ่ง่อนเมื่อตอนสิ้นสุดสงครามเวียดนามเมื่อ 40 กว่าปีก่อนด้วย
หลายคนอาจจะอยากทราบว่าการอพยพผู้คนออกจากอัฟกานิสถานให้ทันเส้นตายวันที่ 31 สิงหาคมของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน มีที่ไปที่มาอย่างไร
เหตุการณ์สำคัญในเรื่องนี้มีที่มา จากการเจรจาสันติภาพ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่เเล้ว สมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เขาลงนามไว้ร่วมกับตัวเเทนตาลิบันเพื่อหาทางยุติสงครามที่เขาเรียกว่าเป็น “สงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด” ในตะวันออกกลาง
เอพีรายงานว่า กรอบเวลาการถอนทหารตอนนั้นคือ วันที่ 1 พฤษภาคมปีนี้ แต่ ประธานาธิบดีไบเดนที่รับช่วงการบริหารต่อมา เลื่อนเส้นตายไปเป็นเดือนกันยายนเเทน ซึ่งหมายถึงการถอนกำลังอเมริกันให้เสร็จสิ้นเดือนสิงหาคมนี้
เเละในเวลาที่ทหารอเมริกันลดจำนวนลงในช่วงที่ผ่านมากองกำลังตาลิบันก็รุกคืบยึดเมืองต่างๆอย่างรวดเร็ว
ในจำนวนที่อพยพออกจากอัฟกานิสถาน 70,000 ราย มีชาวอเมริกันเเละครอบครัวกว่า 4,000 คน ที่เหลือรวมถึงชาวอัฟกันที่มีวีซ่าพร้อมมาสหรัฐฯและที่อยู่ในขั้นตอนดำเนินการให้ได้วีซ่าด้วย
ชาวอัฟกันเหล่านั้นมักเป็นผู้ที่เคยช่วยงานอเมริกาและองค์การสนธิสัญญาเเอตเเลนติกเหนือ หรือนาโต้มาก่อน รวมถึงสมาชิกครอบครัวของพวกเขา
นอกจากนั้นยังมีชาวอัฟกันที่เป็นนักข่าว พนักงานรัฐและผู้ที่ทำงานให้กับองค์กรสิทธิมนุษยชน และหน่วยงานภาคประชาชน
สำหรับผู้ที่มีวีซ่าเข้าอเมริกาอยู่ในมือเเล้ว เครื่องบินอเมริกันจะพาคนเหล่านี้ออกไปที่ประเทศกาต้าหรือประเทศพันธมิตรในอ่าวเปอร์เชียอื่นๆ ก่อนเปลี่ยนเครื่องเดินทางเข้าอเมริกา
ขั้นตอนของผู้ที่ยื่นทำวีซ่าไปแล้วแต่ยังรอการออกเอกสารอยู่ พวกเขาจะต้องไปรออยู่ที่ประเทศรองรับผู้อพยพชั่วคราวก่อน ซึ่งอาจจะอยู่ในยุโรปหรือเอเชีย โดยหน่วยงานอเมริกันในประเทศเหล่านี้จะทำหน้าที่ตรวจประวัติจนเสร็จสิ้นกระบวนการคัดกรอง
และพวกเขายังต้องมารอต่อในอเมริกาที่ฐานทัพในรัฐเวอร์จิเนีย นิวเจอร์ซีย์ เท็กซัส หรือวิสคอนซิน ก่อนได้รับเอกสารที่สมบูรณ์
ทำเนียบขาวกล่าวว่าทุกคนจะได้รับการตรวจโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงอเมริกา
ขณะที่คนอัฟกันเหล่านี้รอการกระบวนการเตรียมเริ่มชีวิตที่ดินเเดนใหม่ในอเมริกา มีอย่างน้อย 13 ประเทศที่เสนอเป็นที่พักพิงชั่วคราวให้กับพวกเขา เช่น ยูกันดา คอสตาริกา และอัลบาเนีย เป็นต้น
ส่วนองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือเรื่องการลงหลักปักฐานในประเทศใหม่ 9 องค์กร ประกอบด้วย International Rescue Committee และ U.S. Conference of Catholic Bishops เป็นต้น
สำหรับข้อท้วงติงที่ว่าการอพยพคนออกจากอัฟกานิสถานเป็นไปอย่างโกลาหล เคยมีความคิดที่ว่าจะเริ่มอพยพคนครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ แต่ทางการอเมริกันชะลอเเผนดังกล่าวไว้เพราะเกรงว่าจะเกิดความเเตกตื่นขึ้นในอัฟกานิสถาน
เจ้าหน้าที่อเมริกัน รวมถึงประธานาธิบดีไบเดนเองกล่าวในช่วงไม่วันที่ผ่านมาว่าภารกิจนำคนจำนวนมากออกจากอัฟกานิสถานย่อมมีความโกลาหลและเกิดภาพที่น่าเศร้าใจ ไม่ว่าจะสหรัฐฯ ดำเนินการดังกล่าวเร็ว หรือช้ากว่าที่เกิดขึ้นในขณะนี้
ทั้งนี้เมื่อ 46 ปีที่เล้ว ณ การสิ้นสุดของสงครามเวียดนาม อากาศยานอเมริกันนำคนอพยพออกจากไซ่ง่อน 7,000 ราย และหากรวมการนำคนอพยพจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดหลังสงคราม ครั้งนี้มีผู้ลี้ภัยทั้งหมดมากกว่า 100,000 ราย