การเมืองของสหรัฐฯ ตกอยู่ภาวะเห็นต่างกันอีกครั้งอย่างรวดเร็ว หลังรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ดำเนินการสั่งยิงบอลลูนสอดแนมของจีนที่ล่องลอยเข้ามาในน่านฟ้าของสหรัฐฯ ตกที่บริเวณนอกชายฝั่ง โดยสมาชิกพรรครีพับลิกันชี้ว่า การดำเนินการเช่นนั้นควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนที่ตัวบอลลูนจะเข้ามาในพื้นที่ประเทศและลอยเหนือจุดที่ตั้งทางทหารสำคัญของประเทศเสียอีก
พีท บุดดิเจ็จ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ กล่าวระหว่างร่วมรายการ State of the Union ทางสถานีข่าว ซีเอ็นเอ็น (CNN) ว่า การที่จีนปล่อยบอลลูนออกมานั้นเป็น “การรุกล้ำอธิปไตยอเมริกันที่ยอมรับไม่ได้” แต่ก็กล่าวด้วยว่า กองทัพสหรัฐฯ ภายใต้คำสั่งของปธน.ไบเดนที่ออกมาเมื่อวันพุธที่แล้ว ทำการยิงบอลลูนดังกล่าวตกเมื่อวันเสาร์ “โดยไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับประชาชนหรือทรัพย์สินใด ๆ ... หลังการประเมินความเสี่ยง(ของปฏิบัติการดังกล่าวในพื้นที่แผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ) เสร็จสิ้นแล้ว”
U.S. Shoots Down Suspected Chinese Spy Balloon
รายงานข่าวระบุว่า เศษซากของบอลลูนที่ถูกยิงระเบิดขณะลอยอยู่ที่ระดับความสูงกว่า 18,000 เมตร ตกลงมาห่างจากบริเวณชายหาดรัฐเซาท์แคโรไลนาเป็นระยะทางราว 10 กิโลเมตร ก่อนที่เรือจากกองทัพเรือสหรัฐฯ จะเข้าทำการเก็บชิ้นส่วนทั้งหมดขึ้นมาจากน้ำและนำส่งไปยังห้องทดลองของสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) ที่ตั้งอยู่นอกกรุงวอชิงตันเพื่อทำการวิเคราะห์
อย่างไรก็ตาม นักการเมืองสังกัดพรรครีพับลิกันออกมาวิจารณ์ปธน.ไบเดน ว่า ไม่ทำการยิงบอลลูนลูกดังกล่าวตกตั้งแต่เมื่อมีการตรวจพบเมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่บริเวณเกาะอลูเชียน ในรัฐอลาสกา แต่ปล่อยให้ลอยข้ามประเทศจากฝั่งตะวันตกมาจนถึงฝั่งตะวันออกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีการลอยผ่านฐานทัพหลายแห่งของสหรัฐฯ ด้วย
ทอม คอตตอน ส.ว.รัฐอาร์คันซอ สังกัดพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาคองเกรสที่วิจารณ์ปธน.ไบเดนมาตลอด ระบุระหว่างให้สัมภาษณ์กับรายการ Fox News Sunday ว่า ภารกิจบอลลูนนี้ เป็น “เครื่องเตือนใจว่า จีนสามารถทำอะไรได้บ้าง” และจีนก็ได้ “สร้างความอับอาย ... ขายหน้า” ให้กับสหรัฐฯ ด้วย
ส่วน มาร์โก รูบิโอ ส.ว.รัฐฟลอริดา สังกัดพรรครรีพับลินกัน บอกกับสถานีข่าว ซีเอ็นเอ็น ว่า “มีสารซ่อนอยู่ในนั้น” จากจีน และว่า “นี่เป็นความล้มเหลวที่ผมไม่เข้าใจ ... ทำไมถึงปล่อยให้มันลอยข้ามกึ่งกลางประเทศผ่านฐานทัพต่าง ๆ มาได้? แล้วถ้าเราปล่อยอะไรลอยเหนือจีน พวกเขาคงยิงมันตกไปแล้ว”
รายงานข่าวระบุว่า บอลลูนลูกนี้เริ่มลอยมาในน่านฟ้าของสหรัฐฯ กว่าสัปดาห์แล้ว ก่อนจะลอยต่อไปยังน่านฟ้าของแคนาดา โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า บอลลูนดังกล่าวลอยกลับเข้ามาในน่านฟ้าสหรัฐฯ อีกครั้งในวันที่ 31 มกราคม ก่อนจะมีผู้พบเห็นลอยอยู่เหนือรัฐมอนทานา ซึ่งเป็นที่ตั้งของคลังเก็บขีปนาวุธนิวเคลียร์สหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว
รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวว่า ได้มีการดำเนินมาตรการด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้บอลลูนที่ว่าเก็บข้อมูลใด ๆ ขณะลอยข้ามประเทศด้วย
อย่างไรก็ดี ข่าวการพบบอลลูนสอดแนมลูกนี้มีออกมาขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังอยู่ในจุดที่มีความอ่อนไหวพอควร โดยเฉพาะเมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศแอนโทนี บลิงเคน มีกำหนดจะเยือนจีนอยู่และเข้าพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ด้วย ซึ่งก็ถูกยกเลิกไปหลังมีรายงานการพบบอลลูนลูกนี้
SEE ALSO: เพนตากอนเผยบอลลูนจีนลอยเปลี่ยนทิศมุ่งกลางประเทศ - บลิงเคนยกเลิกทริปเยือนจีน
เดนนิส วิลเดอร์ อดีตนักวิเคราะห์ด้านจีนจากสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (CIA) บอกกับ วีโอเอ ว่า “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กำลังดำเนินการแบบที่ขอเรียกว่าเป็น การปฏิบัติการหว่านเสน่ห์ หลังสั่งยกเลิก [นโยบาย] โควิดเป็นศูนย์” ซึ่งมีผลให้ยุติข้อจำกัดเพื่อควบคุมการระบาดและคำสั่งล็อกดาวน์ เพื่อหวังดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ ให้กลับมาจีนอีกครั้ง
แต่ วิลเดอร์ คิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดความตึงเครียดรอบใหม่ระหว่างสองมหาอำนาจ โดยให้ความเห็นว่า “หากสหรัฐฯ สามารถกู้อะไรก็ตามจากมหาสมุทรขึ้นมาที่แสดงให้เห็นว่า นี่คือภารกิจสอดแนมจริง และไม่ใช่ภารกิจด้านอุตุนิยมวิทยา และนำเสนอหลักฐานนี้ให้กับจีน เราจะทำให้จีนขายหน้าได้” และว่า “เราอาจจะทำให้กองทัพปลดปล่อยประชาชนอับอายอย่างมาก และถ้าเป็นเช่นนั้น ผมคิดว่า มันจะยิ่งยากยิ่งขึ้นในการจัดการ โดยเฉพาะ หากสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างต่อสาธารณะ ดังนั้น ก็จะมีช่วงเวลาของความตึงเครียดขึ้นอีก”
นอกจาก บอลลูกที่พบในสหรัฐฯ แล้ว มีรายงานข่าวการพบบอลลูนจากจีนอีกลูกที่ลอยเหนือน่านฟ้าภูมิภาคละตินอเมริกาด้วย
ที่มา: วีโอเอ