Google ผู้ให้บริการการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตหรือ search engine รายใหญ่ของโลก โยกย้ายกิจการจากจีนแผ่นดินใหญ่ ไปที่ฮ่องกงแล้ว โดยให้เหตุผลว่า ไม่สามารถเซ็นเซ่อร์บริการของตน ตามข้อบังคับของรัฐบาลจีน หรือยอมรับการปิดกั้นเว็บไซต์ยอดนิยม อย่าง Facebook และ YouTube จากรัฐบาลจีนได้อีกต่อไป
นาย Qin Gang โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวเมื่อวันอังคารว่า บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนเปิดกว้างเต็มที่ โดยมีการบริหารงานตามกฎหมายของประเทศ และสอดคล้องกับการดำเนินการของนานาชาติ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวต่อไปว่า ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตที่ถูกกลั่นกรองออกไป เป็นข้อมูลที่รัฐบาลเห็นว่าเป็นพิษเป็นภัย ต่อความมั่นคงของชาติหรือต่อสังคม และเรียกร้องให้ผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ตอย่าง Google ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ ถ้าอยากจะเข้าไปทำธุรกิจในประเทศจีน
ประเทศอื่นๆ ที่กลั่นกรองข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ก็มีอย่างเช่น เยอรมนี ซึ่งห้ามเว็บไซต์ที่ยกย่องพวกนาซี และคอมพิวเตอร์ในสหรัฐที่ประชาชนทั่วไปเข้าใช้ได้ มักจะห้ามเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งลามกอนาจาร
แต่ที่ทางการจีนห้ามนั้น ครอบคลุมกว้างขวางมาก รวมถึงเว็บไซต์ที่เป็นสื่อสังคม อย่างเช่น Facebook และ Twitter และเว็บไซต์ที่เป็นของสื่อต่างประเทศ รวมทั้ง Voice of America
นอกจากนี้ เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ละเอียดอ่อนของจีนเอง อย่างเหตุการณ์ที่จตุรัส เทียน อันเหมินเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก็ถูกห้าม
การตัดสินใจของ Google ในการย้ายเว็บไซต์จากจีนไปยังฮ่องกง เกิดขึ้นกว่าสองเดือนหลังจากที่ Google ประกาศจะถอนตัวออกจากจีน โดยให้เหตุผลว่ามีการเซ็นเซ่อร์เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการโจมตีเว็บไซต์ของ Google ที่เชื่อว่า เป็นการกระทำของผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ภายในจีน
นาย David Drummond ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายของ Google กล่าวว่า ใช้เวลาพิจารณากันนานทีเดียวว่า จะแก้ปัญหาเหล่านี้ รวมทั้งรักษาคำพูดที่ให้ไว้ว่า Google จะเลิกการเซ็นเซ่อร์บริการของตนได้อย่างไร
นาง Leslie Harris ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อประชาธิปไตยและเทคโนโลยี ยกย่อง Google ที่ดำเนินการตามที่ให้สัญญาว่าจะพิทักษ์สิทธิมนุษยชน โดยโยกย้ายบริการไปไว้ที่ฮ่องกง
เธอกล่าวว่า ถ้า Google ถอนตัวออกไปจากจีนเฉยๆ ผู้คนก็จะมองกันว่า เป็นการทอดทิ้งผู้ใช้บริการในประเทศจีน การดำเนินการอย่างนี้ทำให้เห็นได้ว่า Google พยายามอย่างจริงจังที่จะแสดงให้เห็นว่า เนื้อหาของเว็บไซต์นั้นยังมีอยู่ทั้งหมด
และก็ยังเป็นการผลักภาระไปให้ทางการจีน เป็นผู้ตัดสินว่าจะอนุญาตให้ประชาชน เข้าไปใช้บริการที่อยู่นอกการเซ็นเซ่อร์หรือไม่
แม้ฮ่องกงจะเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน แต่รัฐบาลจีนยอมให้ฮ่องกงมีสิทธิบางส่วนในการปกครองตนเองตามข้อตกลงเมื่ออังกฤษคืนฮ่องกงให้จีน 13 ปีที่แล้ว ฮ่องกงมีเสรีภาพของพลเรือนอย่างที่ส่วนอื่นๆของประเทศจีนไม่มี
แต่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตในกรุงปักกิ่งซึ่งขอสงวนชื่อคนหนึ่งบอกว่า ไม่รู้สึกว่าถูกGoogle ทอดทิ้ง เพราะ Google ไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น และยังไม่เชื่อด้วยว่าจะมีปัญหากับการเข้าใช้บริการของ Google ในระยะยาว
เธอกล่าวว่าอาจจะมีปัญหาบ้างในตอนต้นๆ กับการใช้ applications บางอัน อย่างเช่น Gmail, Google Documents หรือ Calendar แต่ในระยะยาวแล้ว เชื่อว่าจะมี app. จากบริษัทในประเทศจีนเองมาให้ใช้กันได้