ความตื่นตัวของผู้คนในสมัยนี้ เกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่ปลอดจากสารเคมี และถ้าเป็นอาหารประเภทผักผลไม้แล้ว ก็จะนิยมหาซื้อของที่ปลูกกันในท้องถิ่นใกล้ เพื่อจะได้ของสดจริงๆ
ถ้ามีบ้านอยู่ห่างจากเขตนาครไปสักหน่อย ยังจะเลี้ยงไก่ไว้สำหรับไข่สดทุกวันได้อีกด้วย แต่ปัญหาจะเกิดขึ้น ถ้าบ้านที่เลี้ยงไก่นั้น อยู่ใกล้ๆ กับอาคารรัฐสภาในใจกลางกรุงวอชิงตัน
คุณ Amanda Cundiff ย้ายจากนครลอส แอนเจลิสไปอยู่กรุงวอชิงตันได้หลายปีแล้ว และบอกว่า เติบโตขึ้นมาในบ้าน ที่เลี้ยงไก่ไว้ในสนามหญ้าหลังบ้าน ก็เลยไม่เห็นแปลกอะไร ที่จะเลี้ยงไก่ที่บ้านในกรุงวอชิงตัน
ถ้าจะว่าไปแล้ว บ้านของคุณ Amanda เกือบจะเป็นฟาร์มได้ เพราะเธอเลี้ยงนกไว้ด้วยสามตัว มูลนกทำประโยชน์ให้กับสวนครัว และไก่ที่วิ่งเพ่นพ่านอยู่หลังบ้าน วางไข่ให้ทุกเช้า
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเพื่อนบ้านเห็นดีเห็นงาม ไปหาไก่มาเลี้ยงบ้าง แต่กรุงวอชิงตันมีเทศบัญญัติที่กำหนดไว้ว่า เล้าไก่จะต้องอยู่ห่างจากตัวบ้านอย่างน้อย 15 เมตร เนื้อที่บ้านของเพื่อนบ้านไม่กว้างขวางอย่างนั้น มีคนไปแจ้งตำรวจ และไก่ของเพื่อนบ้านถูกยึดไป คุณ Amanda กับเพื่อนบ้านเลยกลายเป็นนักล๊อบบี้ และได้รับการสนับสนุนจากเทศมนตรี Tommy Wells ซึ่งค้นคว้าหาข้อมูลเปรียบเทียบ และพบว่า ผู้คนในเมืองอื่นๆ กำลังตื่นตัวเรื่องอาหารสด ถูกสุขภาพอนามัย หันมาปลูกผัก เลี้ยงไก่ไว้กินไข่กันเอง
คุณ Ted Knutson ผู้มีอาชีพเป็นนักข่าว และมีบ้านอยู่ในย่านเดียวกันกับคุณ Amanda ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมากกับแนวโน้มในเรื่องนี้ คุณ Ted บอกว่า คนย้ายออกไปอยู่บ้านนอก ก็เพราะอยากจะหนีเสียงอึกทึกของการจราจร ในทางกลับกัน คนที่อยู่ในเมือง ก็ไม่อยากอยู่ปะปนกับของจากบ้านนอก คุณ Ted ยังกลัวด้วยว่า มูลไก่จะแพร่เชื้อโรคและจะดึงดูดหนูด้วย แต่เทศมนตรี Tommy Wells เท่าที่ติดตามดูมา ก็ไม่เห็นว่าจะมีอันตรายต่อสุขภาพ และกฎข้อบังคับที่เขียนไว้ก็เข้มงวด มีพนักงานอนามัยไปตรวจเป็นประจำทุกปี
กฎข้อบังคับที่ว่านี้ เทศมนตรีผู้นี้เพิ่งเขียนขึ้นมา และกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา จากกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อกันว่าจะใช้เวลานานกว่าจะผ่าน เพราะตอนนี้คณะเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน จะต้องให้ความสนใจกับเรื่องงบประมาณขาดดุลเป็นหลัก
แต่ไม่ว่าจะต้องรอกันนานสักแค่ไหน อย่างน้อยในตอนนี้คุณ Amanda ก็เป็นผู้หนึ่งในจำนวนคนไม่กี่คน ในกรุงวอชิงตันที่คุยได้ว่ามีไข่สดให้ได้รับประทานทุกเช้า