ประธานาธิบดีโอบาม่ายอมรับว่า จะต้องปรับปรุงการทำงาน ของหน่วยงานด้านการรักษาความมั่นคง จากความพยายามก่อการร้าย เมื่อวันคริสมาสต์ที่ผ่านมา และนักรัฐศาสตร์บางคนเช่นอาจารย์ลารี่ ซาบาโต้ แห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเวอร์จิเนียมองว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นโอกาสให้คนอเมริกันได้ประเมินผู้นำของตนว่า สามารถรับมือกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงอย่างไร
และว่าประธานาธิบดีโอบาม่า มักถูกมองว่าเป็นประธานาธิบดีที่เน้นนโยบายในประเทศ แต่อ่อนด้านการต่างประเทศและความมั่นคง ซึ่งในเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ประธานาธิบดีโอบาม่าก็พลาดโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองเรื่องนี้ ส่วนนายริชาร์ด วูลฟ์นักวิเคราะห์การเมืองอีกคนหนึ่ง ก็มองเช่นกันว่า หน้าที่สำคัญของประธานาธิบดีคือ การสร้างความมั่นใจในหมู่ประชาชน ว่าตนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และจะไม่ยอมทนต่อภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม แต่ประธานาธิบดีโอบาม่าก็ไม่ได้แสดงเรื่องนี้ให้เห็นอย่างชัดเจนเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองเชื่อว่า ถึงแม้พรรครีพับริกันจะพยายามนำเรื่องความมั่นคงนี้มาเป็นประเด็นโจมตีในการเลือกตั้งกลางเทอมในช่วงปลายปี แต่พรรครีพับริกันเองก็ยังขาดผู้นำที่ชัดเจน และยังไม่มีแนวนโยบายใหม่ที่ดีพอ นอกจากการพยายามคัดค้านนโยบายของรัฐบาล และอาจารย์ลารี่ ซาบาโต้ชี้ว่า ถึงแม้คะแนนนิยมในการทำงานของประธานาธิบดีโอบาม่า จะลดลงเหลือราว หรือต่ำกว่า 50 % จากปัญหาเศรษฐกิจ รวมทั้งจากข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการปฏิรูปนโยบายด้านการประกันสุขภาพก็ตาม แต่ความชื่นชมส่วนตัว ที่ประธานาธิบดีสหรัฐได้รับนั้น ยังอยู่ในระดับสูงในขณะนี้
รับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณจำเริญ ตัณฑ์สมบุญ