การประชุมของสหประชาชาติ เรื่องสถานภาพของสตรีในแถบเอเชีย และแปซิฟิก ที่กรุงเทพมหานคร

ในการประชุมขององค์การสหประชาชาติ ที่กรุงเทพมหานคร เรื่องสถานภาพของสตรีในแถบเอเชียและแปซิฟิค เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ของสหประชาชาติแสดงความวิตกว่า ลัทธิเคร่งศาสนาอย่างสุดกู่ กำลังเป็นภัยคุกคามใหม่และใหญ่ต่อสตรี

ประธานคณะกรรมธิการเศรษฐกิจ ของสหประชาชาติภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิคเตือนว่า ลัทธิเคร่งศาสนาอย่างสุดกู่ อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อผู้หญิงมากกว่าปัญหาอื่นๆ

Noeleen Heyser ประธานคณะกรรมธิการเศรษฐกิจของสหประชาชาติ ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิคกล่าวว่า สิ่งที่เธอหวั่นเกรงมากที่สุดคือ การที่ความเคร่งศาสนาอย่างสุดขั้วกำลังมีมากขึ้น และมากยิ่งกว่าปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงิน และความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก เพราะสิ่งที่คิดกันว่า เป็นเรื่องเก่าแก่โบราณ และเคยสามารถแสดงให้เห็นกันมาแล้วว่า เป็นกฏอันตรายในสังคม กำลังกลับคืนมา อย่างการขว้างปาผู้หญิงด้วยก้อนอิฐก้อนหินให้บาดเจ็บ หรือถึงแก่ความตาย และการเฆี่ยนตีผู้หญิงในที่สาธารณะ เป็นต้น

ประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ ของสหประชาชาติภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิคแสดงความวิตกดังกล่าวต่อผู้แทนราว 300 คนจากมากกว่า 60 ประเทศที่ร่วมมาการประชุมเรื่องสถานภาพสตรีในสัปดาห์นี้ที่กรุงเทพมหานคร

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ มีผลกระทบถึงงานมี่ผู้หญิงในเอเชียจำนวนมากทำ โดยเฉพาะในการผลิตสิ่งทอเสื้อผ้าอาภรณ์ และอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ภาวะว่างงาน และราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ กำลังบ่อนทำลายความก้าวหน้าที่ผู้หญิงสร้างไว้ เจ้าหน้าที่สหประชาชาติกล่าวว่า ความเสียหายจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ คลุมขอบเขตออกไปเกินกว่าเรื่องการตกงาน โดยที่ทำให้ผู้หญิงต้องยอมทำงาน ที่ไม่มีสวัสดิการและความปลอดถัย

Joanne Sandler รองผู้อำนวยการกองทุนของสหประชาชาติ เพื่อการพัฒนาสำหรับสตรีกล่าวว่า แรงงานสตรีต้องรับทำงานที่ไม่มีความมั่นคงยิ่งกว่าเดิม และเสี่ยงต่อการถูกข่มเหงทางเพศ และความรุนแรงทางเพศมากขึ้น Joanne Sandler กล่าวว่า รัฐบาลประเทศต่างๆ จำเป็นจะต้องให้ผู้หญิงมีสิทธิมีเสียงมากขึ้น ในนโยบายเศรษฐกิจ

กองทุนประชากรสหประชาชาติเสนอรายงานประจำปี เมื่อการประชุมที่กรุงเทพมหานครเสร็จสิ้นลงในวันพุธ รายงานนี้เตือนว่า ผู้หญิง โดยเฉพาะในประเทศยากจนเป็นผู้เสี่ยงมากที่สุดต่อการถูกกระทบกระเทือนจากผลที่จะติดตามมา ของความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะผู้หญิงในชุมชนเกษตรกรรม

ความแห้งแล้ง และฝนตกไม่ต้องตามฤดูกาล ทำให้ผู้หญิงต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อจะได้มีอาหารเลี้ยงครอบครัว เด็กผู้หญิงมักจะต้องออกจากโรงเรียนมาช่วยแม่ทำงาน

รายงานระบุว่า การแบ่งแยกถือปฏิบัติต่อผู้หญิงเป็นผลเสียต่อการพัฒนา และอาจทำให้เป็นเรื่องยากยิ่งขึ้นสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อรับมือกับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ