แม้เกาหลีใต้จะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเจริญก้าวหน้ามากที่สุด ประเทศหนึ่งในโลก ผลของการสำรวจทัศนคติระหว่างประเทศระบุว่า ภาพลักษณ์ของเกาหลีใต้นั้นอยู่ในระดับต่ำ และรัฐบาลเกาหลีใต้กำลังหาทางแก้ไข
วิธีหนึ่งคือการทำโฆษณาทางโทรทัศน์ ที่แพร่ภาพทั่วเอเชียตะวันออก ซึ่งมุ่งจะชักชวนนักท่องเที่ยวให้ไปเที่ยวเกาหลีใต้ แต่ คำขวัญ Korea Sparkling หรืเกาหลีใต้สดใส อาจจะไม่ใช่ภาพลักษณ์ของเกาหลีใต้ ที่แสดงให้เห็นในสื่อต่างประเทศเสมอไป
ตัวอย่างเช่น การประท้วงต่อต้านการนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐในหน้าร้อน ปีที่แล้ว ซึ่งกลายเป็นข่าวพาดหัวทั่วโลก
คุณ Lee Chan-boum ประธานคณะที่ปรึกษาของประธานาธิบดี ในเรื่องภาพลักษณ์ของชาติ หรือ Council on Nation Branding บอกว่า ถ้าภาพการประท้วงเป็นภาพลักษณ์อย่างเดียวของเกาหลีใต้ที่แพร่ไปทั่วโลก ก็เห็นด้วยว่า อาจส่งผลเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศได้
คุณ Simon Anholt ที่ปรึกษาชาวต่างประเทศที่คณะที่ปรึกษาชุดนี้ ว่าจ้างให้เข้าไปให้คำแนะนำ บอกว่า เรื่อง Nation Branding เป็นเรื่องภาพลักษณ์ เรื่องชื่อเสียงของประเทศ ไม่ว่าจะหาทางชักชวนนักท่องเที่ยว นักลงทุน หรือเรียกร้องความสนใจใดๆ ก็ตาม ภาพลักษณ์ของประเทศมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าความเป็นจริง แม้จะมีช่องว่างระหว่างกันไม่น้อยก็ตาม
คุณ Simon Anholt จัดทำดัชนีภาพลักษณ์ของประเทศต่างๆ รวม 50 ประเทศ และปรากฏว่า เกาหลีใต้ติดอันดับที่ 31
ตามความเห็นของที่ปรึกษาชาวต่างชาติผู้นี้ ผลกระทบของภาพลักษณ์ที่จะไม่เป็นไปในเชิงบวก ก็คือ ราคาสินค้าของประเทศนั้นๆ จะตั้งไว้สูงไม่ได้ เรื่องนี้สำคัญสำหรับเกาหลีใต้ เพราะการส่งออกเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจของประเทศ
นักธุรกิจชาวต่างชาติบางรายบอกไว้ด้วยว่า ปัญหาหนึ่งที่ทำให้ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเกาหลีใต้ไม่เป็นไปในเชิงบวก คือการที่ธุรกิจต่างชาติทำงานในเกาหลีใต้ ไม่ค่อยจะสะดวกราบรื่นนัก
คุณ Tom Coyner ซึ่งมีธุรกิจการให้คำปรึกษาแนะนำอยู่ในกรุงโซล บอกว่า ถ้าภาพลักษณ์ของธุรกิจต่างชาติไม่เข้มแข็งเป็นที่ถูกใจของผู้คน สื่อและประชาชนจะพากันกล่าวหาว่า ธุรกิจต่างชาติเหล่านี้ เข้าไปเอารัดเอาเปรียบเกาหลีใต้
อีกปัญหาหนึ่ง คือการที่ผู้คนทั่วไป ไม่สามารถแยกแยะเกาหลีใต้ออกจากเกาหลีเหนือได้ คุณ Simon Anholt บอกว่า ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า คนทั่วไปไม่แน่ใจว่ามีความแตกต่างอย่างไร ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้
คุณ Simon แนะนำว่า ถ้าเกาหลีใต้ต้องการจะเชิดชูภาพลักษณ์ของตนในระดับโลกแล้วละก็ จะต้องบริจาคเงินในระดับนานาชาติ เพื่อช่วยลดความยากจน หรือบรรเทาภาวะบรรยากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
เป็นที่เข้าใจว่าทางฝ่ายเกาหลีใต้เห็นด้วยกับคำแนะนำที่ว่านี้ ในเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดี Lee Myung-bak ให้คำมั่นว่าจะช่วยบริจาคเงินหลายสิบล้านดอลล่าร์ เพื่อช่วยพัฒนาเวียตนามและกัมพูชา