การสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับนักรบของพวก Hamas

การสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับนักรบของพวก Hamas ทวีความรุนแรง หลังจากอิสราเอลเคลื่อนกำลังเข้าไปในฉนวนกาซ่า ขณะเดียวกัน มีการเดินขบวนประท้วงและพลังกดดันผู้นำชาติอาหรับให้แสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานดังกล่าวในหลายประเทศทั่วโลก

ฝูงชนประท้วงในกรุงเบรุต นครหลวงของเลบานอน ในขณะที่ทหารอิสราเอลต่อสู้กับพวก Hamasในฉนวนกาซ่า พร้อมๆกับกระจายกำลังออกไป เคลื่อนรถถังเข้าประจำที่ และเครื่องบินรบและเรือรบของอิสราเอลกระหน่ำยิงและทิ้งระเบิดเป้าหมายในฉนวนกาซ่าอย่างไม่ลดละ

นอกจากการประท้วงในเลบานอนแล้ว ยังมีการประท้วงในกรุงราบัต มอรอคโค นครอิสตันบุลในตุรกี กรุงดามัสคัสในซีเรีย และการจลาจลถึงกับต้องใช้กำลังตำรวจเข้าสลายฝูงชนในกรุงแอลเจียร์ส นครหลวงของแอลจีเรีย

นาย Hesham Youssef โฆษกของสันนิบาตอาหรับ กล่าวว่า ความโกรธแค้นต่อการกระทำของอิสราเอลครั้งนี้ มิได้มีแต่เพียงในประเทศอาหรับเท่านั้น แต่มีความรู้สึกอย่างเดียวกันในหมู่ผู้คนนับหมื่นนับแสนทั่วโลก

การสู้รบส่วนใหญ่ดูจะมุ่งเน้นในบริเวณตอนเหนือของฉนวนกาซ่า ในขณะที่มีรายงานข่าวว่า กำลังทหารอิสราเอลเข้าล้อมนครกาซ่า ซิตี้ วางกำลังรถถังไว้ในบริเวณที่เคยเป็นนิคมสร้างตนเองของชาวอิสราเอล และในทางปฏิบัติแล้ว ตัดฉนวนกาซ่าออกเป็นสองส่วน คือตอนเหนือและตอนใต้

นาย Mark Regev โฆษกของรัฐบาลอิสราเอลกล่าวว่าปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ มิใช่เป็นการต่อต้านประชาชนในฉนวนกาซ่า แต่เป็นการต่อต้านพวก Hamas ซึ่งเป็นรัฐบาลปกครองฉนวนกาซ่า และเป็นภัยคุกคามต่อภาคใต้ของอิสราเอล

โฆษกรัฐบาลอิสราเอลกล่าวว่า เป้าหมายทางการทหารอย่างเดียวของเรา คือการให้ความความปลอดภัยแก่ประชาชนในภาคใต้ของประเทศ เพื่อว่าประชาชนหนึ่งล้านคนในบริเวณดังกล่าวจะไม่ถูกพวก Hamas ยิงจรวดเข้าใส่อีกต่อไป

อิสราเอลกล่าวว่า ที่ต้องยกกำลังเข้าฉนวนกาซ่า ก็เพราะไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น หลังจากที่การเจรจากับพวก Hamas เพื่อยืดเวลาหยุดยิงประสบความล้มเหลวในเดือนธันวาคม และพวก Hamas เร่งระดมยิงจรวดเข้าไปในภาคใต้ของอิสราเอลเพิ่มมากขึ้น

ทางฝ่าย Hamas ให้คำเตือนไว้ว่า จะทำให้ฉนวนกาซ่าเป็นสุสานฝังศพสำหรับชาวอิสราเอล และประธานาธิบดี Mahmoud Abbas ของชาวปาเลสไตน์เรียกการรุกรานของอิสราเอลครั้งนี้ ว่าเป็นการรุกรานที่โหดร้าย

ในอีกด้านหนึ่ง นาย Amr Moussa เลขาธิการสันนิบาตอาหรับ บอกกับผู้สื่อข่าวในนครนิวยอร์คว่า ในวันจันทร์นี้ จะเริ่มดำเนินการทางการทูต ซึ่งรวมทั้งการเดินทางเยือนอิสราเอลและปาเลสไตน์โดยประธานาธิบดี Nicholas Sarkozy ของฝรั่งเศส และทูตพิเศษ Tony Blair และในกรณีที่ไม่มีทางแก้ไขปัญหาทางอื่น สันนิบาตอาหรับก็จะเรียกให้มีการประชุมสุดยอด