หากพูดถึงหนู บรรดาพ่อครัวแม่ครัวในร้านอาหารทั่วไปคงจะพากันบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ขออย่าได้มากล้ำกลายเฉียดครัวเป็นอันขาด ยิ่งอยู่ไกลกันเท่าไหร่ยิ่งดี แต่ที่รัฐพิหาน หนึ่งในรัฐที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย รัฐบาลส่วนท้องถิ่นที่นั่นกำลังทำในสิ่งตรงกันข้าม ไม่ใช่จะให้หนูมาเป็นพ่อครัวเหมือนในภาพยนตร์เรื่อง Ratatouille แต่เป็นการพยายามสนับสนุนให้ชาวบ้านทานหนูกันให้เยอะๆ
ราคาอาหารต่างๆ ในปัจจุบันแพงมาก ไม่เว้นแม้แต่ที่อินเดีย โดยเฉพาะที่รัฐพิหารซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นคนยากจน สำนักงานสวัสดิการรัฐพิหารจึงเกิดความคิดใหม่ทำนอง ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว แต่ที่ได้กลับไม่ใช่นกนะครับแต่เป็นหนูตัวเป็นๆ เวลานี้เจ้าหน้าที่ที่นั่นกำลังสนับสนุนให้ชาวบ้านหันมาทางเนื้อหนูกันให้เยอะมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาราคาเนื้อสัตว์อื่นๆ แพงแล้ว ยังช่วยเพิ่มการจ้างงานคนที่อยู่ในวรรณะต่ำๆ ให้มาเป็นนักจับหนูขายเลี้ยงชีพ และยังเป็นการกำจัดเจ้าสัตว์ตัวเล็กๆที่ชอบมากัดกินเมล็ดพืชที่เก็บไว้ในโกดังอีกด้วย
คุณวีเจ ปรากาศ เลขาธิการใหญ่ของสำนักงานสวัสดิการรัฐพิหาร ระบุว่าที่รัฐพิหารนั้น มีจำนวนหนูมากกว่าจำนวนประชากรคนถึง 7 เท่า อีกทั้งยังยืนยันว่าเนื้อหนูกับเนื้อไก่นั้น ว่าไปแล้วคล้ายกัน
นอกจากจะให้คุณค่าทางโปรตีนเหมือนกันแล้ว สารอาหารอื่นๆ ในเนื้อหนูกับเนื้อไก่ก็แทบจะไม่แตกต่างกัน คุณปรากาศยังบอกกับผู้สื่อข่าววีโอเอด้วยว่า ทางสำนักงานมีโครงการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ มากมาย เพื่อจูงใจให้คนมาลองดูว่าเมนูหนูนั้น รสชาดจะพอเทียบกับเนื้อสัตว์อื่นได้ไหม แต่เท่าที่ผ่านมา ใครที่เคยลองมักจะบอกกันว่า เนื้อหนูนั้นนุ่มและอร่อยกว่าเนื้อไก่เสียอีก
ตัวคุณปรากาศนั้นยังไม่เคยลองชิม แต่บอกว่าคุณแม่ยืนยันว่าอร่อยจริง ไม่งั้นคงไม่ถึงขั้นปรุงเป็นเมนูพิเศษ หนูย่าง เสริฟในโรงแรมหลายแห่ง ว่ากันว่าเวลานี้ หนูย่างกำลังเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในพิหาร
จนท.สำนักงานสวัสดิการรัฐพิหารหวังว่า อีกไม่นานคงได้มีโอกาสเห็นอาหารรายการหนูย่างจากพิหารนี้ในโรงแรมระดับห้าดาวของอินเดีย แต่พ่อครัวมืออาชีพจากภัตตาคารมหินธรา รีสอร์ท ที่มีสาขาถึง 22 แห่งทั่วอินเดียยืนยันว่า ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน
พ่อครัว พี สุนทราราจัน บอกว่า วัฒนธรรมอินเดียยังคงยึดถือในการกินผักเป็นหลักและไม่เบียดเบียนสัตว์อื่น อย่างไรก็ตาม หลายคนคาดว่าในอนาคต หนูจากรัฐพิหารอาจกลายเป็นสินค้าส่งออกไปยังจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาฟริกาหรือแม้แต่ในฝรั่งเศส ซึ่งต่างมีหนูเป็นรายการอาหารพิเศษอยู่แล้ว เช่น ซุปหนูในกาน่า เนื้อหนูผัดขิงใส่หัวหอมในประเทศจีน หนูย่างในเวียดนามหรือแม้แต่ในประเทศไทยเราเอง
และถ้าหากเมนูหนูหนูที่ว่านี้ได้ขึ้นโรงแรมห้าดาวขึ้นมาจริงๆ นักชิมหลายท่านแนะนำว่าไม่ต้องไปคิดให้เสียเวลาว่าจะทางกับไวน์แดงหรือไวน์ขาวดี เพราะจะให้เหมาะที่สุดนั้น ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเนื้อหนูต้องกินกับเหล้าขาวหรือเหล้าโรงถึงจะอร่อยกลมกล่อมที่สุด