ปัจจุบันศิลปะบนเรือนร่างหรือรอยสักนั้นกำลังได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นทั่วโลก ในอเมริกาเองก็มีผู้คนมากมายที่หลงใหลในศิลปะแขนงนี้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ผลการสำรวจชิ้นหนึ่งระบุว่า เวลานี้มีคนอเมริกันราว 1 ใน 5 ที่มีรอยสักประทับอยู่ที่ใดที่หนึ่งบนร่างกาย
หนุมาน เสือเผ่น ลิงลม หรือมังกรคาบแก้ว ล้วนเป็นรอยสักที่คนไทยเรารู้จักกันเป็นอย่างดี ที่อเมริกานี่เค้าก็มีรอยสักที่เป็นสัญลักษณ์มาตั้งแต่โบราณเช่นกัน อย่างเช่น ทหารเรือสมัยก่อนที่มักจะสักรูปสมอเรือหรือไม้กางเขนที่ต้นแขน หรือสมาชิกแก๊งมอเตอร์ไซค์ตัวใหญ่ๆ ที่สักรูปหัวกะโหลก ปืนและดอกกุหลาบ เพื่อแสดงถึงความน่าเกรงขาม เป็นชายชาตรีทำนองนั้น แต่สมัยนี้ คนอเมริกันรุ่นใหม่ต่างนำเอารูปต่างๆ ทั้งรูปหัวใจ ตัวอักษร สัตว์หรือรูปในจินตนาการ มาประทับเป็นศิลปะบนเรือนร่างที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป สำหรับเหตุผลในการสักของแต่ละคนก็แตกต่างกัน
คุณ Scott Campbell ผู้เชี่ยวชาญการสักในย่านบรู๊คลิน นิวยอร์ค บอกว่าบางคนสักเพราะอกหัก บางคนเพิ่งมีลูก หรือบางคนก็สักเพราะอยากแสดงให้รู้ว่ารักแม่แค่ไหน ใครอยากบอกอะไรให้โลกรู้ก็สามารถแสดงออกได้ทางรอยสัก เช่น คุณ Nick จากซานฟรานซิสโกที่บอกว่า เขาสักรูปต้นไม้ใหญ่ไว้เพื่อระลึกถึงความรักที่มีต่อพี่ชายของเขาเอง
เมื่อก่อนนั้นคนที่จะสักมักจะใช้รูปภาพที่แสดงอยู่ตามร้านรับสักนั่นเอง แต่สมัยนี้ การออกแบบรูปภาพที่จะใช้สักสำหรับตัวเองนั้น ดูเหมือนจะเป็นแฟชั่นใหม่ที่กำลังนิยมในหมู่วัยรุ่นอเมริกัน นัยว่าสามารถแสดงออกถึงพรสวรรค์ทางศิลปะและความรู้สึกที่อยู่ในจิตใจได้ดีกว่า
ในขณะเดียวกัน สำหรับผู้เชี่ยวชาญที่รับสักรูปภาพลงบนร่างกายผู้อื่นนั้น ดูเหมือนความเชื่อใจและมั่นใจของลูกค้าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
คุณ Myles Karr ปรมาจารย์การสักที่มีรูปปลาหมึกยักษ์และหิ่งห้อยประทับอยู่ที่ต้นแขนบอกว่า ธุรกิจรับสักนี้เป็นธุรกิจที่ห้ามผิดพลาดเด็ดขาด คนสักต้องใจเย็นและแน่ใจว่ารูปที่ออกมานั้นต้องดูดีสวยงาม ปัจจุบัน กฎหมายสหรัฐระบุไว้ว่าร้านรับสักนั้นต้องดูแลเครื่องมือให้สะอาดปลอดภัย เข็มที่ใช้สักต้องผ่านการฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางผิวหนังหรือทางเลือด
ดูเหมือนขณะนี้ การทำรอยสักจะกลายเป็นกระแสใหม่ของคนอเมริกันไปแล้ว ดารานักร้องและคนที่มีชื่อเสียงหลายคนต่างมีรอยสักปรากฏอยู่ตามร่างกาย