รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทย นายนภดล ปัทมะ ประกาศการลาออกจากตำแหน่ง และความรับผิดชอบในการลงนามในข้อตกลงเรื่องปราสาทเขาประวิหารกับกัมพูชาเมื่อต้นปีนี้
ข้อตกลงดังกล่าวเปิดทางให้กัมพูชาแสวงหาสถานภาพมรดกโลกให้กับปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งในอดีตเป็นสถานที่ที่ประเทศไทยกล่าวอ้างสิทธิอธิปไตย
รัฐมนตรีนภดลปฏิเสธว่าการลงนามในข้อตกลงที่ว่านั้น เป็นการละเมิดสิทธิอธิปไตยในเรื่องเขตแดนของประเทศไทย แต่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญของประเทศมีคำพิพากษาลงมา ที่ระบุว่ารัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ เพราะมิได้นำข้อตกลงดังกล่าวเสนอให้รัฐสภาพิจารณาก่อน
นายสุนัย ผาสุก ผู้แทนขององค์การ Human Rights Watch ในประเทศไทย กล่าวว่า คำพิพากษาดังกล่าวของศาล และการลาออกของรัฐมนตรีนภดล ปัทมะ ทำให้คณะรัฐบาลอายุห้าเดือนของนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวชอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก
ผู้แทนของ Human Rights Watch ในประเทศไทยกล่าวว่า ศาลพิพากษาว่ารัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการที่เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ ด้วยการลงนามในข้อตกลงที่ไม่ได้ให้รัฐสภาพิจารณา และคณะรัฐมนตรีลงความเห็นสนับสนุน ทำให้รัฐบาลชุดนี้สูญเสียความเป็นที่น่าเชื่อถือโดยสิ้นเชิงส่วนรองศาสตราจารย์ ฐิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ ของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นว่า รัฐบาลชุดนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช จะต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ผู้นี้กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสมัครจะต้องปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นการซื้อเวลาให้ชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น แต่จะไม่ยุติการเดินขบวนประท้วงรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีตามท้องถนน ซึ่งเมื่อมองไปในอนาคต คิดว่า นายกรัฐมนตรีจะอยู่ต่อไปไม่ได้นาน