อุตสาหกรรมเหล้าองุ่นในอินเดีย ซึ่งดำเนินมาสิบปีแล้วนั้นกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ชาวอินเดียเกิดนิยมรสชาติของเหล้าองุ่นกัน แต่ทว่าการเก็บภาษีอากรขาเข้าไว้สูงยังคงเป็นอุปสรรคต่อการที่ผู้ผลิตเหล้าองุ่นในต่างประเทศจะเจาะตลาดเหล้าองุ่นในอินเดียได้สะดวก
เมื่อสิบปีที่แล้ว เวลาผู้บริหารของบรรษัทต่างๆ จัดงานเลี้ยง เขากจะนำเหล้าวิสกี้ เหล้าวอดก้าและเบียร์มาเลี้ยงแขกเหรื่อ แต่ตอนนี้เศรษฐกิจกำลังเติบโตและการที่คนมีฐานะดีขึ้นเรื่อยๆทำให้รสนิยมของคนเปลี่ยนไป คนชั้นสูงและคนชั้นกลางในอินเดียจึงต้องเตรียมหาเหล้าองุ่นไว้เลี้ยงเวลาเพื่อนฝูงมาเยี่ยมเยียน
ใครที่รู้เรื่องเหล้าองุ่นยังไม่ดีพอก็จะไปฟังการสัมมนาเกี่ยวกับสรรพคุณของเหล้าองุ่นและงานอื่นๆเพื่อใหัตัวเองมีความรู้เจนจัดว่าเขาเสริฟอะไรพร้อมๆกับเหล้าองุ่นชนิดไหน
สถาบันเหล้าองุ่นแห่งอินเป็นผู้จัตกิจกรรมเหล่านั้นเสียเป็นส่วนใหญ่ คุณสุพาช อโรรา ผู้อำนวยการของสถาบันแห่งนั้นกล่าวว่าการดื่มเหล้าองุ่นในอินเดียเพิ่มขึ้นปีละ สามสิบถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์
เขากล่าวว่าการดื่มเหล้าองุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทีเดียวในช่วงสาม สี่ ห้าปีที่แล้วเพราะมีการส่งเสริมโฆษณาเหล้าองุ่นกันเยอะมาก และคนพยายามก่อให้เกิดความตระหนัก มีการให้ความรู้เกี่ยวกับเหล้าองุ่นและอะไรต่อมิอะไรในทำนองนั้น ซึ่งทำให้วัฒนธรรมการดื่มเหล้าองุ่นขยายวงออกไปเรื่อยๆ
การที่คนอินเดียนิยมดื่มเหล้าองุ่นมากขึ้นทำให้อุตสาหกรรมเหล้าองุ่นในอินเดียเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดอย่างหนึ่งของโลก และขณะนี้ครองส่วนแบ่งตลาดเหล้าองุ่นในอินเดียไว้ได้เกือบเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์
คุณราจีฟ สาม๊านต์ผู้เริ่มทำไร่องุ่นสูลาที่แคว้นมหาราชตระทางภาคตะวันตกของอินเดียกล่าวว่าคุณภาพของเหล้าองุ่นอินเดียกำลังดีวันดีคืนขณะที่อินเดียมีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับวิธีทำเหล้าองุ่นดีขึ้น
เขากล่าวว่าตอนที่เขาเริ่มทำไร่องุ่นนั้นยังไม่มีใครปลูกเถาองุ่น ทำเหล้าองุ่นหรือเคยลิ้มรสเหล้าองุ่น แต่ทว่าคนพบว่าอากาศในแคว้นมหาราชตระเหมาะสำหรับปลูกต้นองุ่นมากจริงๆ เขากล่าวว่าเรารู้วิธีทำเหล้าองุ่นดีขึ้นทุกวันและเขาเชื่อว่าเหล้าองุ่นดีที่สุดในอินเดียขณะนี้คุณภาพทัดเทียมกับเหล้าองุ่นต่างประเทศราคาขวดละสามสิบเหรียญสหรัฐนั่นเลยทีเดียว
แต่การที่อินเดียเก็บภาษีขาเข้าจากเหล้าองุ่นต่างประเทศสูงมาก ทำให้เศรษฐีเท่านั้นที่มีปัญญาซื้อหามาดื่มได้ หลังจากสหภาพยุโรปร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลกแล้ว อินเดียลดภาษีขาเข้าลงเหลือราว 150 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็ยังสูงลิ่วอยู่ดี อย่างไรก็ดีรัฐบาลอินเดียยังโดนกดดันให้ลดภาษีขาเข้าต่อไปและผู้ผลิตเหล้าองุ่นต่างประเทศหวังว่าคงจะได้ประโยชน์จากการที่ตลาดเหล้าองุ่นในอินเดียกำลังขยายตัวนี่ถ้ารัฐบาลอินเดียยอมลดภาษีขาเข้าต่อไปอีก
แม้ว่าการดื่มเหล้าองุ่นในอินเดียเพิ่มขึ้นก็จริงแต่ยังนับว่าน้อยนิดเมื่อเทียบกับที่ในบรรดาประเทศตะวันตก การจำหน่ายเหล้าองุ่นในอินเดียตกปีละราวๆ หนึ่งล้านหีบ แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวภายในปีพุทธศักราช 2554