เมื่อวันจันทร์ บรรดาผู้นำของโลกมาร่วมการประชุมครั้งแรกของโลก เพื่อถกอภิปรายเรื่องวัณโรคและเชื้อไวรัส HIV พร้อมกันทีเดียวสองหัวข้อ การประชุมระดับผู้นำของโลกมีขึ้นก่อนที่จะมีการประชุมรวม 2 วันของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เกี่ยวกับเรื่องเชื้อ HIV และโรคเอดส์
บรรดาผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การระบาดของวัณโรคทั่วโลก เป็นภัยคุกคามต่อพลโลกผู้ติดเชื้อไวรัสHIV ทั้งๆ ที่มียาขนานต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีชีวิตอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องเป็นโรคเอดส์
ผู้อำนวยการของโครงการแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับเชื้อไวรัส HIVและโรคเอดส์ เควิน เดอ ค็อค กล่าวว่า วัณโรค เป็นโรคติดเชื้อที่ร้ายแรงที่สุด ซึ่งคุกคามต่อพลโลกผู้มีชีวิตอยู่ ขณะที่ติดเชื้อไวรัสHIV
คุณเควิน เดอ ค็อค กล่าวว่า วัณโรคคือต้นเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยด้วยโรคเอดส์ ในบรรดาประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางผู้กำลังจะตายนั้น เสียชีวิตไปราวร้อยละ 33 และว่า ทุกๆ ปีนั้น อนุมานกันว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส HIV และวัณโรค มาแทรกรายใหม่ๆมีจำนวนอย่างน้อย 700,000 คนแต่เขาสงสัยว่า ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านั้น
ขณะนี้ อนุมานกันว่า พลโลกราวสามล้านคนกำลังรับประทานยาต่อต้านเชื้อไวรัส HIV ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แม้แต่ได้รับการบำบัดรักษาเกี่ยวกับเชื้อไวรัส HIV อยู่ก็ตาม แต่ผู้ป่วยก็ยังล่อแหลมต่อการติดเชื้อวัณโรค เจ้าหน้าที่ยังวิตกห่วงใยเกี่ยวกับภัยคุกคามของวัณโรคชนิดที่ดื้อยา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผู้ป่วยด้วยวัณโรคชนิดที่รักษาให้หายยากรายใหม่ มีจำนวนปีละสี่หมื่นราย
หัวหน้าโครงการหยุดยั้งวัณโรคขององค์การอนามัยโลก มารีโอ ราวีกลีโอเน กล่าวว่า การประสานความพยายามในหมู่ประเทศต่างๆ เพื่อวินิจฉัยและบำบัดรักษาผู้ที่ติดเชื้อไวรัส HIV และเป็นวัณโรคด้วยเป็นเรื่องที่สำคัญ
เขากล่าวว่า ตอนนี้ เรากำลังแก้ปัญหาชีวิตให้ปัจเจกชนรายเดียวโดดๆ ผู้เป็นทั้ง 2 โรค และจำเป็นต้องมีการแก้ไขปัญหาแบบมีการประสานงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างดี
ในการประชุมถกอภิปรายกันครั้งนี้ มีเลขาธิการสหประชาชาติ บาน กี-มูน และประมุขแห่งรัฐหลายคนเข้าร่วม