รัฐบาลผสมชุดใหม่ของปากีสถานกับสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ของสหรัฐ

รัฐบาลผสมชุดใหม่ของปากีสถานเข้าทำงานอย่างเป็นทางการแล้วโดยปรับ เปลี่ยนโดยสิ้นเชิงจากพรรคการเมืองที่เคยหนุนหลังประธานาธิบดีเปเวซ มูชาราฟ มาเป็นรัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่ต่อต้านประธานาธิบดี ซึ่งเป็นผู้นำที่เป็นหัวจักรสำคัญในสงครามต่อต้านการก่อการร้ายที่นำโดยรัฐบาลสหรัฐ

การเปลี่ยนมือทางอำนาจการเมืองในปากีสถานมีนัยยะอย่างไรต่อบทบาทใน อนาคตของสหรัฐและความสัมพันธ์กับปากีสถาน

หลังการปกครองด้วยทหารนานแปดปี ปากีสถานได้รัฐบาลผสมชุดใหม่ ที่มาจากการเลทอกตั้งเข้าทำงานเรียบร้อยแล้ว โดยนายยูสุฟ ราซา กิลยานี นักการเมืองจากพรรคเพื่อประชาชนปากีสถาน ของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิง เบนนาเซีย บุตโต ที่ถูกลอบสังหารเมื่อปลายปีกลายได้เป็นนายกรัฐมนตรี

รัฐบาลผสมชุดใหม่ของปากีสถานซึ่งมาจากพรรคการเมืองสามพรรคที่ี่มีขั้ว ตรงข้ามกับประธานาธิบดีเปเวซ มูชาราฟ และสามารถหาทางขับไล่ ประธานาธิบดีออกจากตำแหน่งได้

แน่นอนว่าสมาชิกรัฐสภาพลเรือนชุดใหม่จะเต็มไปด้วยไฟหลังถูกแขวนนวม ไปนาน นายกิลยานีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ประกาศว่าจะทำให้รัฐสภามีอำนาจ ศักดิ์สิทธิื์และสูงสุด

นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของปากีสถานกับผู้นำพรรคสันนิบาติมุสลิมเอ็นของนาย นาวาส ชารีฟ พรรคร่วมรัฐบาลประกาศว่าต้องการลดปฏิบัติการทางทหารในการ จัดการกับกลุ่มศาสนาติดอาวุธและกลุ่มนักรบทาเลบันชาวปากีสถานลง แต่จะหันไปใช้วิถีทางการทูตแทนมากขึ้น และยังบอกด้วยว่าต่อจากนี้ไป ความร่วมมือกับสหรัฐ โดยเฉพาะการต่อต้านการก่อการร้ายจะต้องนำเสนอ ต่อรัฐสภาเพื่อประชุมกันโดยจะไม่ปล่อยให้ประธานาธิิบดีหรือผู้นำคนใดๆตัดสินใจเองเหมือนที่ผ่านมา

คุณทาเฮียร่า อับดุลล่า นักวิเคราะห์การเมืองปากีสถานบอกว่า รัฐบาลสหรัฐ กังวลไม่น้อยต่อการปรับเปลี่ยนท่าทีของปากีสถานนี้เพราะเกรงจะมีผลกระทบต่อการเดินหน้าในการปราบปราบกลุ่มก่อการร้ายในชายแดนปากีสถาน-อาฟกานิสถาน ที่ดำเนินมากว่าหกปีแล้ว โดยเห็นได้จากการที่สหรัฐรีบส่งตัวแทนระดับสูงมาเยือนปากีสถานเพื่อเจรจากับหัวหน้าพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลชุดใหม่ก่อนที่ตัวนายกรัฐมนตรีปากีสถานคนใหม่จะขึ้นดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการเสียอีก

คุณทาเฮียร่า บอกว่าในปากีสถานเกิดปฏิกริยาทางลบอย่างมากต่อความพยายามเข้าแทรกแซงของสหรัฐนี้ค่ะเพราะเป็นการเร่งรีบเกินไปจนถูกมองว่าต้องการกำหนดนโยบายเสียเอง

ในห้วงที่อนาคตของประธานาธิบดีมูชาราฟไม่แน่นอน มีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐ เพิ่มความถี่ของปฏิบัติการทางอากาศ ในห้วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อโจม ตีจุดที่สงสัยว่าเป็นที่ซ่อนตัวของนักรบอัลไคด้าในเขตชนเผ่าตามชายแดนปากีสถานที่ติดกับอาฟกานิสถานและแม้ว่าทั้งสหรัฐและประธานาธิบดีมูชาราฟ จะปฏิเสธว่าการโจมตีทางอากาศ หลายหนเป็นปฏิบัติของทหารสหรัฐ ปฏิกริยา ในปากีสถานนั้นออกมาทางลบโดยเห็นว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของปากีสถาน

คุณทาเฮียร่า อับดุลล่า บอกว่าชาวปากีสถานเบื่อหน่ายต่อสงครามการต่อต้าน การก่อการร้าย ที่นำโดยสหรัฐ ภายใต้ความร่วมมือกับประธานาธิบดีมูชาราฟ และเชื่อว่าเหตุระเบิดต่างๆในประเทศที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคนเป็นการตอบโต้จากกลุ่มติดอาวุธต่อสหรัฐและคนปากีสถานกลับได้รับผลกระทบโดยตรง

ทางด้านคุณแมทธิว เพ็นนิงตั้ง หัวหน้าสำนักข่าวเอพีที่กรุงอิสลามบัดบอกว่าแม้ว่า หน้าตาและท่าทีของรัฐบาลปากีสถานชุดใหม่จะเปลี่ยนไปจากรัฐบาลชุดเดิม แต่ปากีสถานยังไม่ถึงขนาดเลิกเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ ในสงครามการต่อต้านการก่อการร้าย

คุณเพ็นนิงตั้นวิเคราะห์ว่าในที่สุดแล้วปากีสถานคงจะไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายความ ร่วมมือกับสหรัฐนี้แบบหน้ามือเป็นหลังมือเพียงแต่อาจจะปรับวิธีการหรือช่ิองทางในการแสวงความร่วมมือกันเท่านั้นเอง เพราะว่ารัฐบาลปากีสถานชุดใหม่ยังต้องพึ่ง สหรัฐทั้งทางด้านการเงินและการสนับสนุนอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการเดินหน้าปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายถึงแม้ว่าประชาชนในปากีสถาน จะต่อต้านสหรัฐมากขึ้น โดยมองว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ไม่จริงใจต่อปากีสถานและใช้ปากีสถานเป็นเครื่องมือในการตามล่าตัวหัวหน้ากลุ่มอัลไคด้า เท่านั้นก็ตาม