คุณประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ (ตอนที่ 2)

ก่อนหน้านี้เราได้เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ที่มีต่อพัฒนาการของเด็ก ทารก แต่การที่จะให้เด็กดื่มนมนั้นอาจจะเป็นเรื่องยากได้ อย่างน้อยก็ในช่วงเริ่มต้น

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ควรจะเริ่มในทันทีที่เด็กเกิด สำหรับบรรดาคุณแม่มือใหม่ อาจจะมีผู้เชี่ยวชาญ ที่โรงพยาบาล หรือตามศูนย์สุขภาพอื่นๆ ที่ช่วยสาธิตวิธีการให้นมในท่าต่างๆ ให้ดู

ในการให้นมลูกนั้น คุณแม่อาจจะเจ็บหลังหรือคอได้ ถ้าหากชะโงกตัวไปป้อนนมลูก ดังนั้นจึงควรยกลูกขึ้นมา กินนมที่หน้าอกแทน การให้นมแม่ที่ถูกวิธี ควรจะให้ปากของเด็กอ้าให้กว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้สา มารถงับทั้งหัวนมและบริเวณลานนม เข้าไปในปากทั้งหมดได้

นอกจากนี้คุณแม่ควรจะป้อนนมลูกบ่อยๆ ตั้งแต่ออกจากห้องคลอด โดยปกติแล้วจะป้อนนมทุกๆ 2 ชั่วโมง ศูนย์การแพทย์ Mayo Clinic ในสหรัฐชี้ว่า วิธีที่ดีที่สุดในการให้นมลูกคือควรจะป้อนนมก่อนที่ลูกจะหิวมาก เกินไป ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เมื่อคุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่บ่อยๆ จะช่วยให้ผลิตนมได้มากขึ้น

ผู้หญิงสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้จากหนังสือต่างๆ หรือจากกลุ่มผู้ให้การสนับสนุนการ เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทางอินเตอร์เนต แต่คุณแม่บางคนก็ต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก

ในบรรดาประเทศกำลังพัฒนา การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังคงเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้เด็กทารกติด เชื้อไวรัสที่ ทำให้เป็นโรคเอดส์ แต่การชงนมด้วยน้ำสกปรกก็ทำให้เด็กทารกป่วยด้วยเช่นเดียวกัน

การประชุมที่นครบอสตันเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคเอดส์มีรายงานว่า การศึกษาในหมู่เด็กทารก ราว 2 พันคนแสดงให้เห็นว่ายา nevirapine สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV จากการดื่มนมแม่ได้

ยา Nevirapine นั้นมีใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศกำลังพัฒนา ในการป้องกันไม่ให้คุณแม่ที่ติดเชื้อ ส่งผ่าน เชื้อไวรัสไปยังบุตรของตนในระหว่างการคลอด เด็กทารกหลายคนได้รับยา Nevirapine เพียงครั้งเดียว ในตอน แรกเกิด

อย่างไรก็ตาม การศึกษาพบว่า เด็กทารกที่ได้รับยานี้เป็นประจำทุกวัน เป็นเวลาหกสัปดาห์มีอัตราเสี่ยงในการ ติดเชื้อ HIV น้อยกว่าเด็กที่ได้รับยาเพียงครั้งเดียวราวครึ่งหนึ่ง พออายุได้หกเดือน เด็กเหล่านี้ก็ยังคงมีความ เสี่ยงในการติดเชื้อ หรือเสียชีวิตน้อยกว่าถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว

นักวิทยาศาสตร์รายงานว่าเด็กที่ได้รับยา Nevirapine เป็นเวลาหกสัปดาห์ภายใต้แนวทางที่เป็นที่ยอมรับกัน นั้น ปลอดภัยพอๆ กับเด็กที่ได้รับยานี้เพียงครั้งเดียว คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอบกินส์ ในรัฐแมรี่แลนด์ เป็นผู้นำในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ร่วมกับคณะนักวิจัยจากเอธิโอเปีย อินเดีย และอูกานดา

ในปี พศ. 2549 องค์การสหประชาชาติเปลี่ยนนโยบายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยมารดาที่ติด เชื้อไวรัสเอชไอวี ข้อเสนอแนะใหม่สนับสนุนให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเวลาหกเดือน ถ้าหากแม่ไม่มีเงินซื้ออาหารที่จำเป็นและ นมกระป๋อง แนวคิดดังกล่าวนี้เชื่อว่าคุณประโยชน์จากน้ำนมแม่ มีมากมายกว่าความเสี่ยงหลายเท่าตัว

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าทารกเกิดใหม่ที่ไม่ได้ดื่มน้ำนมแม่ มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตด้วยโรคปอดบวม หรือโรคท้อง ร่วงมากกว่าเด็กที่ดื่มนมแม่ 5-7 เท่าตัว