คนพลัดถิ่นในปากีสถาน (ตอนที่ 1)

ความไม่สงบในอาฟกานิสถานที่ยังไม่จบสิ้นตลอดเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปากีสถานประเทศเพื่อนบ้านรับเอาผู้ลี้ภัยสงครามมาดูแลรวมแล้ว ประมาณ 5 ล้านคน แม้จะมีการส่งกลับประเทศไปบ้างแล้ว ปากีสถานยังมีผู้ลี้ภัยจากอาฟกานิสถานพักพิงอยู่อีกมากกว่าล้านคน

อาฟกานิสถานผ่านสงครามมาหลายหน ตั้งแต่ถูกรัสเซียบุกยึดเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้วตามด้วยความขัดแย้งระ หว่างกลุ่มมูจาฮีดีนและนักรบชนเผ่า หลังขับไล่รัสเซียออกไปได้ ต่อด้วยการปกครองด้วยกฏเหล็กทางศาสนาโดยกลุ่มทาเลบัน มาจนถึงปัจจุบันอาฟกานิสถานเป็นสมรภูมิรบของสงครามปราบ ปรามกลุ่มก่อการร้าย ภัยจากสงครามหลายหนทำให้ชาวอาฟกานิสถานหลายล้านคนกลายเป็นผู้อพยพในปากีสถานรุ่นแล้วรุ่นเล่า

คุณไมเคิล ซว๊าก รองหัวหน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติที่ปากีสถานหรือยูเอ็นเฮชซีอาร์ บอกกับวีโอเอภาคภาษาไทย ว่าปากีสถานถือเป็นเจ้าบ้านที่ดีอย่างมากเพราะตลอดเกือบ30ปีที่ผ่านมาได้ให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยจากอาฟกานิสถานแล้วประมาณ 5 ล้านคน แต่ในที่สุดแล้ว ปากีสถานก็หวังว่าผู้ลี้ภัยเหล่า นี้ควรกลับบ้านเมื่ออาฟกานิสถานสงบพอ

คุณซว๊ากบอกว่าเมื่อปีที่แล้วทางยูเอ็นเอชซีอาร์กับทางรัฐบาลปากีสถาน ได้ลงทะเบียนผู้ลี้ภัยสงครามชาวอาฟกานิสถานในปากีสถานทั้งหมดได้ 2 ล้าน 1 แสน 5 หมื่นคนถือเป็นตัวเลขผู้อพยพอย่างเป็นทางการ และได้จัดเก็บข้อมูลลายพิมพ์นิ้วหัวแม่มือและรูปพันสัณฐานของใบหน้าเอาไว้ประกอบ คนที่ขึ้นทะเบียนกับรัฐบาลแล้วนี้้มีสิทธิอยู่ในปากีสถานได้จนถึงปลายปีหน้า นอกเสียจากว่าสถานการณ์เปลี่ยนแปลง

ปากีสถานและยูเอ็นเฮชซีอาร์เคยส่งผู้ลี้ภัยกลับอาฟกานิสถานหลายครั้งในอดีต โดยเมื่อ 18 ปีก่อน ส่งกลับไปจำนวนสองล้านคนตอนที่รัสเซีย ถอนกำลังออกจากอาฟกานิสถาน

แต่สงครามระหว่างกลุ่มนักรบมูจาฮีดีนที่ตามมาตลอดจนการปกครองของกลุ่มทาเลบันกลายเป็นสาเหตุให้คนอาฟกานิสถานหลายล้านคนหลบหนีออกนอกประเทศอีกระลอกหนึ่ง
คุณซว๊ากบอกกับวีโอเอภาคภาษาไทยว่าการส่งผู้ลี้ภัยกลับบ้านอย่างสมัครใจ รุ่นล่าสุดเริ่มเมื่อหกปีที่แล้ว โดยส่งไปหนึ่งล้านสองแสนคนหลังจากทาเลบันถูกกองกำลังสหรัฐและทหารนานาชาติขับไล่ออกจากอำนาจซึ่งตอนนั้นทุกฝ่ายมีความหวังด้านบวกว่าอาฟกานิสถานจะได้รับการบูรณะประเทศ และเห็นดีเห็นงามในการส่งผู้ลี้ภัยกลับบ้านเกิด

แต่ในห้วงสองสามปีที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ลี้ภัยที่ต้องการกลับอาฟกานิสถาน ลดน้อยลงเรื่อยๆ คุณซว๊ากบอกว่าตัวเลขผู้ลี้ภัยสมัครใจกลับบ้านใน ปีที่แล้วอยู่ที่่ 3 แสน 5 หมื่่นคนเท่านั้นและปีนี้อาจจะลดลงไปกึ่งหนึ่ง เขาบอกว่าสาเหตุมาจากสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในอาฟกานิสถาน เลวร้ายลงไปในห้วง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้ประ ชาชนขาดความปลอดภัยในชีวิต

อย่างไรก็ดีคุณซว๊ากบอกว่าอาฟกานิสถานยังไม่พร้อมที่จะรับผู้ลี้ภัยจำนวนมากกลับบ้านทีเดียว เนื่องจากยังไม่มีการจ้างงานเพียงพอ แม้แต่ที่พักอาศัย ก็ยังไม่เพียงพอ ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของอาฟกานิสถานถูกทำลายจนเหลือแต่ซากจากสงครามครั้งต่างๆ ทำให้ประเทศขาดช่วงการพัฒนาในทุกด้าน

ในขณะนี้อาฟกานิสถานยังไม่สามารถผลิตอาหารได้เพียงพอโดยตอนนี้้ปัญหาหลักคือการขาดแคลนแป้งข้าวสาลีซึ่งเป็นอาหารหลักจนรัฐบาลต้องร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ

คุณซว๊ากบอกว่าทุกคนต่างก็หวังที่จะได้เห็นอาฟกานิสถานที่มีความมั่นคง และสามารถเลี้ยงคนของตนได้ แม้จะไม่รู้ว่ากว่าจะไปถึงจุดได้จะต้องใช้เวลากันอีกกี่สิบปี